เจ้าหน้าที่จากบริษัทหัวไท่ ไพน์บริดจ์ แมเนจเมนต์ โคเปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้อนุมัติการเปิดกองทุน เพื่อการลงทุนในกลุ่มผู้ผลิตชิปจีนและเกาหลีใต้แถวหน้าเป็นครั้งแรก ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ การอนุมัติของ CSRC เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐเพิ่งเผยแพร่มาตรการจำกัดการส่งออกครั้งใหญ่ในวันศุกร์ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขัดขวางอุตสาหกรรมชิปของจีน ขณะที่ บริษัทหัวไท่ได้ยื่นขออนุมัติกองทุนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.
กองทุนรวม (ETF) ดังกล่าวจะลงทุนในบริษัทชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของเกาหลี ซึ่งรวมถึงบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ อิงค์ ตลอดจนบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของจีน เช่น บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง อินเทอร์เนชันแนล คอร์ป และมอนเทจ เทคโนโลยี โค
"คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมชิปเซมิคอนดักเตอร์จีนและเกาหลีจะได้รับการบูรณาการอย่างใกล้ชิด" บริษัทหัวไท่ระบุในเอกสารที่เตรียมไว้สำหรับ ETF ดังกล่าว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดการเปิดตัว
รายงานระบุว่า กองทุนรวมดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากการที่จีนเร่งก้าวไปสู่การพึ่งพาตัวเองทางเทคโนโลยี ท่ามกลางการคว่ำบาตรของสหรัฐ ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงกรณีที่สหรัฐขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี โค จำกัดของจีน รวมถึงกฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ที่สหรัฐเพิ่งออกเป็นกฎหมายเมื่อไม่นานมานี้
บริษัทหัวไท่ระบุว่า ในปี 2564 เกาหลีใต้เป็นผู้ส่งออกอุปกรณ์ชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ซึ่งรวมถึงเครื่องมือการผลิตชิป ในขณะที่ยอดการส่งออกของจีนไปยังเกาหลีใต้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงเมื่อวันเสาร์ (8 ต.ค.) ว่า การผลิตชิปในจีนของซัมซุงและเอสเค ไฮนิกซ์จะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการเคลื่อนไหวของสหรัฐ