ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (18 ต.ค.) ว่า การที่รัสเซียพึ่งพาโดรนของอิหร่านเพื่อโจมตียูเครนนั้นแสดงให้เห็นว่า รัสเซียกำลังประสบความล้มเหลวทั้งทางการเมืองและการทหาร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.เซเลนสกีได้กล่าวผ่านทางวิดีโอว่า การใช้อาวุธของอิหร่านเท่ากับว่ารัสเซียยอมรับความล้มเหลว หลังจากให้เงินทุนสนับสนุนแก่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของสหภาพโซเวียตและหลังยุคสหภาพโซเวียตมานานหลาย 10 ปี
ยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียใช้โดรนชาเฮด-136 (Shahed-136) กามิกาเซ่ (Kamikaze) ที่ผลิตในอิหร่านในการโจมตีครั้งล่าสุดต่อโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน
"การที่รัสเซียขอความช่วยเหลือจากอิหร่านนั่นหมายถึงว่า รัสเซียยอมรับว่าประสบความล้มเหลวในทั้งแง่การทหารและการเมือง และนับเป็นเวลาหลายทศวรรษที่พวกเขาใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมทหารของตนเอง และในท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องขอให้อิหร่านจัดหาโดรนและขีปนาวุธแบบธรรมดาให้" ปธน.เซเลนสกีระบุ
นอกจากนี้ ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า การโจมตีครั้งล่าสุดทำให้โรงไฟฟ้ายูเครนต้องหยุดดำเนินการ 30% พร้อมเสริมว่า การใช้อาวุธอาจสร้างความหวังและภาพลวงตาให้กับกลุ่มผู้นำรัสเซีย แต่ก็ยังคงไม่ได้ช่วยอะไร
"เป็นการแสดงให้โลกได้เห็นอีกครั้งว่ารัสเซียกำลังมุ่งหน้าสู่ความพ่ายแพ้ และกำลังพยายามลากผู้สมรู้ร่วมคิดอีกรายเข้าสู่ความหวาดกลัวนี้" ปธน.เซเลนสกีกล่าว