สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คำสั่งห้ามพลเมืองอเมริกันช่วยเหลืออุตสาหกรรมชิปจีนของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในวงแคบกว่าที่กังวล และอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ดำเนินธุรกิจในจีนน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
รายงานระบุว่า กฎดังกล่าวดูเหมือนจะมุ่งเป้าไปที่พลเมืองสหรัฐที่ทำงานบางตำแหน่งในบริษัทอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์เป็นหลัก เมื่อพิจารณาจากเอกสารที่สำนักงานด้านอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ต.ค) เพื่อชี้แจงมาตรการควบคุมการส่งออกซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
การคว่ำบาตรเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อป้องไม่ให้กองทัพจีนเข้าถึงเทคโนโลยีชิปที่ล้ำสมัย แต่กลับสร้างความไม่แน่นอนแก่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี และสร้างความเสียหายแก่หุ้นชิปทั่วโลก
พลเมืองสหรัฐที่มีหนังสือเดินทางสหรัฐ กรีดการ์ด หรือมีสถานะเป็นผู้พำนักถาวร จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเพื่อดำเนินการหรืออนุญาตให้จัดส่งสิ่งของที่ใช้ในการพัฒนาหรือผลิตชิปขั้นสูงไปที่โรงงานในจีน แต่ไม่รวมผู้ที่ดำเนินการด้านการจัดการหรือธุรการที่เกี่ยวข้อง การควบคุมในลักษณะเดียวกันนี้มีผลบังคับใช้กับพลเมืองสหรัฐที่ทำหน้าที่บำรุงรักษา ซ่อมแซม และปรับปรุงรายการสิ่งของเหล่านั้นเช่นกัน
นักออกแบบและวิศวกรที่เกิดในต่างแดน ตลอดจนชาวจีนที่มีหนังสือเดินทางต่างประเทศ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีของจีนมายาวนาน ข้อจำกัดใหม่นี้สร้างความกังวลอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมชิปของจีน โดยวิตกกันว่าพนักงานของสหรัฐจะถูกกีดกันโดยสิ้นเชิง โดยบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของจีนหลายแห่งล้วนพึ่งพาให้ผู้ถือหนังสือเดินทางของสหรัฐมานั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
ผู้ผลิตชิปของจีน เช่น เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ป หรือบรรดาซัพพลายเออร์เครื่องจักร เช่น นอรา เทคโนโลยี กรุ๊ป อาจยังคงได้รับผลกระทบ แต่มาตรการดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้พลเมืองสหรัฐทำหน้าที่ในบางตำแหน่งเท่านั้น ขณะที่บุคลากรสหรัฐที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคการออกแบบชิปที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในจีน อาจไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ โดยทั่วไปแล้ว บริษัทออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ไม่ได้ดำเนินการในโรงงานหรือเป็นเจ้าของเครื่องจักรโดยตรง
ทั้งนี้ หน่วยงานของสหรัฐปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการจำกัดดังกล่าว