นางอามีนา โมฮัมเหม็ด รองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ (UN) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (10 พ.ย.) ว่า การก่อการร้ายทวีความรุนแรงขึ้นทั่วแอฟริกา โดยใช้ประโยชน์จากความไร้เสถียรภาพและความขัดแย้ง
"กลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง อาทิ กลุ่มดาอิซ (Da?esh), อัลเคดา และกลุ่มในเครือเหล่านั้นได้ใช้ประโยชน์จากการขาดเสถียรภาพและความขัดแย้งเพื่อเพิ่มกิจกรรมก่อการร้ายและการโจมตีทั่วทั้งทวีป" นางโมฮัมเหม็ดกล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงในนามของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ของ UN ในระหว่างการอภิปรายในหัวข้อ "การต่อต้านการก่อการร้ายในแอฟริกา - ความจำเป็นเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนา"
นางโมฮัมเหม็ดระบุว่า "ความรุนแรงที่ไร้เหตุผลได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายพันราย และอีกหลายรายยังคงต้องทนทุกข์ทรมานจากผลกระทบของการก่อการร้ายต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขาในวงกว้าง"
นางโมฮัมเหม็ดกล่าวว่า "กลุ่มผู้ก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงยิ่งทำให้ความไร้เสถียรภาพและความทุกข์ทรมานของผู้คนย่ำแย่ลง และพวกเขาสามารถฉุดประเทศที่เพิ่งออกมาจากสงครามให้กลับเข้าไปสู่ห้วงความขัดแย้งที่รุนแรง"
นอกจากนี้ นางโมฮัมเหม็ดระบุเสริมว่า ผู้ก่อการร้าย กลุ่มติดอาวุธที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ และเครือข่ายอาชญากรมักดำเนินวาระและกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการลักลอบนำเข้า การค้ามนุษย์ และวิธีการอื่น ๆ ของการจัดหาเงินทุนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งบางครั้งก็แอบอ้างเป็นกองกำลังติดอาวุธที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ นางโมฮัมเหม็ดกล่าวว่า ขณะที่เครื่องมือดิจิทัลแพร่กระจายความเกลียดชังและการบิดเบือนข้อมูล เหล่าผู้ก่อการร้ายและกลุ่มอาชญากรอื่น ๆ ก็กำลังใช้ประโยชน์จากความตึงเครียดระหว่างชุมชน และความไม่มั่นคงทางอาหารซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ