ฮ่องกงประกาศลดจำนวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในห้องปฏิบัติการลงครึ่งหนึ่งสำหรับนักเดินทางขาเข้า โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ทั้งนี้ นางลิบบี ลี รมช.สาธารณสุขของฮ่องกงเปิดเผยในวันนี้ (17 พ.ย.) ว่า นักเดินทางขาเข้าจะต้องตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ (RT-PCR) ที่สนามบิน 1 ครั้งและตรวจหาเชื้อด้วยวิธีเดียวกันอีก 1 ครั้งหลังเยือนฮ่องกงเป็นวันที่สอง ภายใต้กฎระเบียบใหม่ โดยไม่ต้องตรวจหาเชื้อในวันที่ 4 และวันที่ 6 ดังเช่นกฎเกณฑ์เดิมอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักเดินทางยังจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อแบบเอนติเจนทุกวันตลอดระยะเวลา 7 วันของการเยือนฮ่องกงเช่นเดิม
นางลีกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยลดความไม่สะดวกให้กับนักเดินทาง โดยเชื้อโควิด-19 ที่แพร่กระจายในฮ่องกงในปัจจุบันนั้นมีระยะเวลาการฟักตัวสั้น ทำให้การตรวจหาเชื้อแต่เนิ่น ๆ นั้นครอบคลุมการติดเชื้อส่วนใหญ่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในฮ่องกงนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ฮ่องกงตรวจพบผู้ติดเชื้อภายในชุมชนเพิ่มขึ้น 29% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่เฉลี่ย 5,884 รายต่อวัน ขณะที่ ยอดผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศนั้นยังคงค่อนข้างทรงตัว โดยคิดเป็นสัดส่วน 7.6% ของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดตลอดช่วง 7 วันที่ผ่านมา