กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ปฏิเสธไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลเนเธอร์แลนด์เกี่ยวกับคดีที่เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกในปี 2557
แถลงการณ์ระบุว่า ศาลถูกกดดันจากนักการเมือง, อัยการ และสื่อของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทำให้กระบวนการพิจารณาคดีไม่มีความเป็นกลาง และมีสาเหตุทางการเมือง
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ระบุว่า อัยการเนเธอร์แลนด์ได้ละเลยหลักฐานที่บ่งชี้ว่าขีปนาวุธอาจถูกยิงจากดินแดนที่กองทัพยูเครนครอบครองอยู่
ด้านนายอังเดร คลิชาส สมาชิกวุฒิสภารัสเซีย กล่าวว่า คำตัดสินของศาลไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด และรัสเซียจะไม่ส่งตัวชาวรัสเซีย 2 รายที่ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ศาลเนเธอร์แลนด์มีคำตัดสินวานนี้ว่า เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ได้ถูกยิงตกในปี 2557 โดยขีปนาวุธของรัสเซียจากทุ่งแห่งหนึ่งทางตะวันออกของยูเครน
นอกจากนี้ ศาลมีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตสำหรับชาวรัสเซีย 2 รายและชาวยูเครน 1 รายในคดีดังกล่าว และจำเลยทั้ง 3 จะต้องชดใช้เป็นจำนวนเงินราว 16 ล้านยูโรต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ส่วนชาวรัสเซียอีก 1 รายได้รับการตัดสินพ้นผิดจากคดีนี้
"ศาลมีคำวินิจฉัยว่า เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกโดยขีปนาวุธ BUK จากทุ่งแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองเพอร์โวแมสก์ ส่งผลให้ผู้โดยสาร 283 ราย และลูกเรือ 15 รายเสียชีวิต" ผู้พิพากษาเฮนดริค สทีนฮุส ซึ่งเป็นประธานศาลกล่าว
ศาลระบุว่า ขณะเกิดเหตุ รัสเซียควบคุมพื้นที่ทั้งหมดทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นดินแดนที่กลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียครอบครองอยู่ โดยเครื่องบินถูกยิงตกในภูมิภาคดังกล่าว
"ตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.2557 รัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่โดยรอบของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์" ผู้พิพากษาสทีนฮุสกล่าว
ก่อนหน้านี้ คณะสืบสวนนานาชาติแถลงว่า ชาวรัสเซีย 3 ราย และชาวยูเครน 1 รายได้ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จากเหตุโศกนาฎกรรมเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH17 ตกในวันที่ 17 ก.ค.2557 ขณะที่เครื่องบินกำลังบินจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย
คณะสืบสวนได้ข้อสรุปว่า เครื่องบินลำดังกล่าวถูกขีปนาวุธรัสเซียยิงตกจากดินแดนที่กลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียครอบครองในประเทศยูเครน