เทศบาลกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน สั่งล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ หลายแห่ง หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงปักกิ่งย่ำแย่ลง โดยปักกิ่งรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 2 รายในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 951 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดของปักกิ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2564
ผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุดนี้เป็นหญิงวัย 91 ปี และชายวัย 88 ปี หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (19 พ.ย.) กรุงปักกิ่งพบผู้เสียชีวิตรายแรกในรอบเกือบ 6 เดือน ซึ่งเป็นชายวัย 87 ปี
รายงานระบุว่า กรุงปักกิ่งได้สั่งให้โรงเรียนในเขตเฉาหยาง เขตไห่เตี้ยน เขตตงเฉิง และซีเฉิง ระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและเปลี่ยนไปเรียนทางออนไลน์ และสั่งให้ประชาชนในเขตเหล่านี้อยู่แต่ในบ้าน
นอกเหนือจากเขตต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งแล้ว จีนยังได้สั่งล็อกดาวน์เมืองสือจยาจวง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอเป่ย โดยสั่งให้ระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 5 วัน รวมทั้งล็อกดาวน์เขตไป๋อวิ๋นในมณฑลกว่างโจวเป็นเวลา 5 วันเช่นกัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 25 พ.ย.
ทั้งนี้ จีนกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 ในเมืองต่าง ๆ ตั้งแต่เมืองเจิ้งโจวซึ่งอยู่ในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีนไปจนถึงเมืองฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ย่ำแย่ลงเช่นนี้อาจจะกลายเป็นบททดสอบประสิทธิภาพของนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และอาจส่งผลให้ทางการจีนตัดสินใจล็อกดาวน์เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงกรุงปักกิ่งอีกครั้ง แม้เมื่อไม่นานมานี้ จีนเพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ด้วยการลดระยะเวลาการกักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และยกเลิกค่าปรับสายการบินในกรณีที่พบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19