สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มาลาวีกลายเป็นประเทศที่มีรายได้น้อยชาติแรกที่ได้รับเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ภายใต้มาตรการใหม่ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ประเทศต่าง ๆ รับมือกับราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น
IMF เห็นพ้องที่จะอนุมัติเงินกู้จำนวน 88.3 ล้านดอลลาร์แก่มาลาวี เพื่อรับมือกับปัญหาความต้องการดุลการชำระเงินเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนอาหารที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมเสริมว่า อัตราเงินเฟ้อด้านอาหารประจำปีเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า แตะที่ 34.5% นับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อเดือนก.พ.
รายงานการแบ่งความมั่นคงทางอาหารบนฐานของภาวะวิกฤติที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ (Integrated Food Security Phase Classification - IPC) ระบุว่า มาลาวีเป็น 1 ใน 48 ประเทศที่ IMF ระบุว่า ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดจากวิกฤตอาหารที่รุนแรงที่สุดเท่าที่โลกเคยประสบมานับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก โดยคาดว่าประมาณ 1 ใน 5 ของประชากรจะเผชิญกับความไม่มั่นคงทางอาหารอย่างรุนแรงในช่วงระหว่างรอเก็บเกี่ยวพืชผลในเดือนต.ค.-เดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับเพียง 15% ในปีก่อนหน้า
IMF เปิดตัวมาตรการเงินกู้ค่าอาหารเมื่อเดือนก.ย. สำหรับประเทศที่ต้องการดุลการชำระเงินเร่งด่วนเนื่องจากความไม่มั่นคงทางด้านอาหาร การเรียกเก็บภาษีนำเข้าอาหารที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือภาวะหยุดชะงักของการส่งออกธัญพืช โดยความช่วยเหลือนี้มีอายุ 1 ปี และยูเครนก็ได้รับเงินช่วยเหลือภายใต้มาตรการนี้เช่นกัน