ประชาชนชาวจีนไม่พอใจต่อวิธีที่ภาครัฐรับมือกับการยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์แบบกะทันหันเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเกิดเหตุนักศึกษาแพทย์รายหนึ่งเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าวเริ่มส่งผลกระทบต่อบุคลากรการแพทย์และระบบการดูแลสุขภาพของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแถลงการณ์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ว่า นักศึกษาแพทย์ระดับปริญญาโทแซ่เฉิน ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว เป็นลมหมดสติแบบกะทันหันในช่วงค่ำวันอังคาร ( 13 ธ.ค.) ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน
แม้โรงพยาบาลแห่งนี้ระบุว่า นักศึกษาแพทย์รายดังกล่าวเสียชีวิตจากปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ แต่บรรดาผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ต่างคาดเดากันว่า เขาอาจทำงานหนักจนเกินไป และอาจติดเชื้อโควิด-19 โดยข่าวนี้ติดเทรนด์บนเว็บไซต์เว่ยป๋อในวันนี้ (15 ธ.ค.) โดยมีผู้เข้าไปอ่านข่าวมากถึงประมาณ 270 ล้านครั้ง
การแห่โพสต์ข่าวดังกล่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ได้ตอกย้ำให้เห็นว่า ชาวจีนต่างรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากต่อความสามารถของประเทศในการรับมือกับสถานการณ์ระบาดครั้งรุนแรงที่สุด หลังภาครัฐยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการระบาดอย่างรวดเร็วของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนแห่ซื้อยารักษาโรคจนเกลี้ยงร้าน ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยจำนวนมากต้องไปยืนต่อแถวยาวเหยียดนอกโรงพยาบาลเพื่อรอเข้ารับการรักษา เนื่องจากเกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากร หลังแพทย์และพยาบาลต่างล้มป่วยในคราวเดียวกัน