เอริก เทน ฮาก ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดเผยว่า การที่ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจมองหาโอกาสขายทีมอาจเป็นเรื่องดี และมั่นใจว่า การเปลี่ยนแปลงเจ้าของจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อ "จุดประสงค์ เป้าหมาย และวัฒนธรรมของสโมสร"
เทน ฮากระบุว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับตระกูลเกลเซอร์ แต่ได้หารือแผนการต่าง ๆ กับริชาร์ด อาโนลด์ ซีอีโอของสโมสรแล้ว
"จากข้อมูลที่ผมได้รับก็คือเรื่องนี้จะก่อให้เกิดแต่เรื่องดี ๆ เพราะจะเปิดโอกาสให้มีการลงทุนมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดี เราคุยกันเรื่องจุดประสงค์ เป้าหมาย และวัฒนธรรมสโมสรที่เราต้องการ โดยอาโนลด์ยืนยันว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่จะดียิ่งกว่าเดิมเพราะจะมีเงินมาสนับสนุนโปรเจกต์นี้มากขึ้น"เทน ฮากกล่าว
เทน ฮากเสริมด้วยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องลงทุนในด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสโมสรอื่นในพรีเมียร์ลีกต่อไปได้ และเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เงินทุนดังกล่าวอย่างชาญฉลาด
"สโมสรนิวคาสเซิลกำลังยกระดับขึ้นมา และแม้แต่สโมสรเวสต์แฮม แม้อาจจะไม่ใช่ในตอนนี้ แต่พวกเขามีเงินลงทุนก้อนใหญ่ คุณสามารถนับคร่าว ๆ ได้เลยว่าในลีกนี้มีสโมสรที่มีความสามารถในการแข่งขัน 7-8 สโมสรเลย" เทน ฮากกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อพ.ย.เดือนที่ผ่านมา ตระกูลเกลเซอร์เปิดเผยว่า ทางสโมสรกำลังเริ่มกระบวนการสำรวจทางเลือกเชิงกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการหาผู้ลงทุนใหม่ หรือขายสโมสร ซึ่งหากเกิดขึ้นจะเป็นการสิ้นสุดเวลา 17 ปีของการเป็นเจ้าของสโมสรของตระกูลเกลเซอร์
ที่ผ่านมา แฟนบอลของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต่างเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีม รวมถึงวิจารณ์การทำงานของตระกูลเกลเซอร์อย่างรุนแรง หลังสโมสรแชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัยไม่มีถ้วยใด ๆ มาประดับตู้โชว์ของสโมสรร่วม 5 ปีแล้ว