ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 "กำลังเพิ่มขึ้น" ทั่วประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อความดังกล่าวของปธน.ไบเดนที่โพสต์ผ่านทางทวิตเตอร์มีขึ้น ในขณะที่ครอบครัวชาวอเมริกันกำลังจะรวมตัวกันในช่วงวันหยุด
ส่วนทำเนียบขาวจะเริ่มโครงการส่งมอบชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้แก่ครัวเรือนต่าง ๆ ที่ต้องการก่อนการแพร่ระบาดที่อาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว
เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของคณะบริหารของปธน.ไบเดนแถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ว่า "เราพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศ หลังวันขอบคุณพระเจ้า"
เจ้าหน้าที่ระบุว่า "แม้ว่าโควิดจะไม่ใช่พลังทำลายล้างอย่างที่เคยเป็นมา แต่เรารู้ว่าไวรัสจะแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น เมื่อผู้คนรวมตัวกันในบ้านในช่วงเทศกาลวันหยุดฤดูหนาว"
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่โดยเฉลี่ยในรอบ 7 วันแตะระดับมากกว่า 65,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 50% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน CDC ระบุว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากกว่า 99 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิต 1.08 ล้านราย เมื่อนับจนถึงวันที่ 7 ธ.ค.
ทั้งนี้ เมืองและเทศมณฑลหลายแห่งของสหรัฐรวมถึงนิวยอร์กซิตี้ และลอสแอนเจลิส เคาน์ตี กำลังเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคาร
"เรากำลังจะเผชิญกับการติดเชื้อที่พุ่งขึ้นอีกครั้ง" นายซาจู แมทธิว แพทย์ปฐมภูมิและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในแอตแลนตา รัฐจอร์เจียทวีตข้อความเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.)
นายแมทธิวระบุเสริมว่า "การสวมหน้ากากอนามัยที่พอดีจะช่วยให้ผู้คนเดินทางในช่วงวันหยุดได้ยาวนาน ซึ่งจะช่วยป้องกันไวรัสทางเดินหายใจต่าง ๆ ในปัจจุบัน"