สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนียเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) โดยระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 ราย นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวยังสร้างความเสียหายต่อถนนหลายสาย, สะพานหลายแห่ง และยังทำให้ไฟฟ้าถูกตัดขาด ซึ่งส่งผลให้ประชาชนหลายพันครัวเรือนและธุรกิจต่าง ๆ เผชิญปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้
เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.34 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายสิบระลอก โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเขตฮัมโบลท์เคาตี้ นอกชายฝั่งทางตอนเหนือของเมืองซานฟรานซิสโกออกไปประมาณ 350 กิโลเมตร โดยพื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมอาหารทะเล, การแปรรูปไม้ และฟาร์มโคนม
สำนักงานป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย (CalFire) ระบุว่า แผ่นดินไหวในครั้งนี้ส่งผลให้เกิดประกายไฟและเกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็วตามมา จนเป็นเหตุให้อาคาร 2 แห่งพังทลาย โดยสำนักงาน CalFire ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุฉุกเฉินถึง 70 สายหลังจากเกิดแผ่นดินไหว โดยมีสายหนึ่งที่รายงานว่ามีประชาชนติดอยู่ในซากตึกและต้องการความช่วยเหลือ
ทางด้านสำนักงานนายอำเภอเขตฮัมโบลท์เคาตี้รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายในจุดที่เป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหว นอกจากนี้ บ้านเรือนและถนนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นช่องทางข้ามสะพานที่พาดผ่านแม่น้ำเอลไปยังเมืองเฟิร์นเดล ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสไตล์วิคตอเรียที่มีชื่อเสียง หลังจากเจ้าหน้าที่พบรอยแตกขนาดใหญ่ 4 แห่งบนสะพาน