รัฐบาลจีนส่งสัญญาณว่าจะพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐ และเพิ่มการสื่อสารกับยุโรป โดยขณะนี้จีนกำลังเริ่มกำหนดแผนการทางการทูตครั้งสำคัญสำหรับปี 2566
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าวในงานสัมมนาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ธ.ค.) ว่า "เราจะดำเนินการตามที่ประธานาธิบดีจีนและสหรัฐเห็นพ้องต้องการ และดำเนินการเพื่อนำความสัมพันธ์ทวิภาคีกลับมาสู่แนวทางที่ถูกต้องอีกครั้ง"
รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานกับสหรัฐและชาติพันธมิตร ด้วยการจัดการประชุมสุดยอดครั้งแรกกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนที่แล้ว โดยนโยบายต่างประเทศเชิงรุกของจีนมีส่วนทำให้จีนสูญเสียแรงสนับสนุนจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงทศวรรษแห่งการปกครองของปธน.สี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สหรัฐพยายามกดดันประเทศพันธมิตรด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการขายเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงให้กับจีน
เมื่อไม่นานมานี้ นายหวังได้กล่าวกับนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐทางโทรศัพท์ว่า สหรัฐควรหยุดขัดขวางการพัฒนาของจีน และทั้งสองประเทศควรให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามฉันทามติของ 2 ผู้นำที่บาหลี ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า นักการทูตระดับสูงของจีนกล่าวว่า จีนจะเพิ่มการแลกเปลี่ยนระดับสูงและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์กับยุโรป