พายุหิมะพัดกระหน่ำเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์กของสหรัฐ ในวันคริสต์มาส (25 ธ.ค.) จนทำให้การจราจรเป็นอัมพาต ผู้ขับขี่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยติดอยู่ในรถ บ้านเรือนหลายพันหลังไม่มีไฟฟ้าใช้ และมียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุพายุครั้งนี้เพิ่มขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานตามตัวเลขจากเอ็นบีซีนิวส์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 รายนับตั้งแต่พายุหิมะพัดถล่มภูมิภาคเกรตเลกส์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ธ.ค.) โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองบัฟฟาโลและบริเวณริมทะเลสาบอิรีทางตะวันตกของรัฐนิวยอร์ก เนื่องมาจาก "หิมะที่เกิดจากทะเลสาบ" (lake-effect snow) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มวลอากาศเย็นเคลื่อนผ่านพื้นผิวทะเลสาบที่อุ่นกว่า จนน้ำบนผิวระเหยกลายเป็นเมฆที่ประกอบไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ตกกลับลงมาเป็นหิมะตลอดช่วงสุดสัปดาห์
นายมาร์ก โปลอนคาร์ซ ผู้บริหารเขตอีรีเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตในภูมิภาคบัฟฟาโลที่ได้รับการยืนยันว่ามาจากเหตุพายุหิมะอยู่ที่ 13 รายเมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้นจาก 3 รายเมื่อวันเสาร์ (24 ธ.ค.) โดยผู้ประสบภัยกลุ่มล่าสุดบางรายถูกพบเป็นศพในรถยนต์ บางรายจมอยู่ในกองหิมะ และยอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อไป
นายโปลอนคาร์ซโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ว่า "นี่ไม่ใช่คริสต์มาสที่เราคาดคิดหรือคาดหวังไว้ ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก"
ด้านนางแคธี โฮเคิล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกพายุครั้งนี้ว่าเป็น "มหันตภัยทางสภาพอากาศที่ทั้งชีวิตจะพบสักครั้ง" โดยนับเป็นพายุหิมะที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มบริเวณเกรตเตอร์บัฟฟาโลนับตั้งแต่ครั้งเมื่อปี 2520 ที่คร่าชีวิตไปเกือบ 30 ราย
นางโฮเคิลแถลงข่าวว่า "ตอนนี้เรามีพายุที่มีความรุนแรง ความยาวนาน และความโหดร้ายของลมมากกว่าพายุครั้งก่อน ๆ" พร้อมเสริมว่า พายุครั้งนี้มีแนวโน้มจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็น "พายุหิมะแห่งปี 2022"