นายเฉิน เอ๋อเจิน รองประธานโรงพยาบาลรุ่ยจิน และสมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโควิด-19 ของเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่า ชาวเซี่ยงไฮ้ถึง 70% อาจติดเชื้อโควิด-19 แล้วในระหว่างการแพร่ระบาดครั้งใหญ่นี้
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นหลังทางการจีนยกเลิกนโยบายคุมโควิดที่เข้มงวดซึ่งใช้มานานหลายปีอย่างกะทันหันเมื่อเดือนธ.ค. และทำให้โรงพยาบาลและสถานฌาปนกิจศพรับภาระเกินความจุอย่างรวดเร็ว
นายเฉินประเมินไว้ว่าคนส่วนใหญ่จากประชากร 25 ล้านคนในเซี่ยงไฮ้อาจติดโควิด-19 แล้ว
นายเฉินกล่าวกับต้าเจียงตง สตูดิโอ (Dajiangdong Studio) ของหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า "ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิดในเซี่ยงไฮ้นั้นเป็นวงกว้างมาก และอาจเข้าถึงประชากร 70% แล้ว ซึ่งมากกว่าเมื่อเดือนเม.ย.และพ.ค.ร่วม 20-30 เท่า"
ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้เผชิญมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดนาน 2 เดือนตั้งแต่เม.ย. ซึ่งในระหว่างนั้นมีประชาชนกว่า 600,000 คนติดเชื้อ และอีกมากถูกส่งตัวไปอยู่ที่ศูนย์กักตัว
แต่ปัจจุบัน เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดไปทั่วเซี่ยงไฮ้ และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะขึ้นถึงจุดสูงสุดในช่วงต้นปี 2566
ในเมืองใหญ่อื่น ๆ ของจีน รวมถึงปักกิ่ง, เทียนจิน, ฉงชิ่ง และกว่างโจว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนเสนอว่าการแพร่ระบาดขึ้นถึงจุดสูงสุดไปแล้ว
นายเฉินเสริมว่า โรงพยาบาลในเซี่ยงไฮ้ของเขามีผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาตัววันละ 1,600 คน ซึ่งมากเป็น 2 เท่าของช่วงก่อนที่จะคลายมาตรการต่าง ๆ และ 80% ของผู้ป่วยฉุกเฉินที่เข้ารักษาตัวเป็นผู้ติดเชื้อโควิด