นายหลิว ชิงเฉวียน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนจีนในปักกิ่งเปิดเผยเมื่อวันพุธ (11 ม.ค.) ว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกือบ 2,000 คนติดเชื้อโควิด-19 ในการระบาดระลอกล่าสุด
นายหลิวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ทั้งหมดหายเป็นปกติด้วยการรับประทานยาแผนจีน โดยเขาระบุว่า จากพนักงาน 1,000 คนที่ติดเชื้อนั้น มีเพียง 1 คนที่มีความดันโลหิตสูงอยู่แล้วนั้น กลายเป็นโรคปอดอักเสบ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนสนับสนุนการใช้ยาแผนจีนควบคู่ไปกับการรักษาแบบตะวันตกสำหรับโรคโควิด-19 โดยการแพทย์แผนจีนอาศัยการรักษาโดยใช้สมุนไพรและวิธีการทางธรรมชาติมากกว่าการใช้ยารักษาโรค เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถรักษาตัวเองได้
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ระบาดทั่วประเทศจีนในเดือนธ.ค. เนื่องจากทางการยุติการควบคุมโควิดส่วนใหญ่อย่างกะทันหัน โดยธุรกิจในท้องถิ่นรายงานว่า พนักงานส่วนใหญ่ล้มป่วยภายในหนึ่งสัปดาห์แล้วค่อยฟื้นตัว ประชาชนหลายหมื่นคนรีบไปที่คลินิกไข้ในกรุงปักกิ่งภายในวันเดียว
นายหลิวกล่าวว่า เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ทำให้แพทย์และพยาบาลไม่สามารถกลับบ้านได้เป็นเวลาหลายวัน บางครั้งเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ต้องทำงานในขณะที่ตัวเองป่วยและต้องรับประทานยารักษา
หลังจากที่โรคโควิด-19 ระบาดระลอกล่าสุดในจีน ประชาชนต่างก็รีบกักตุนยา ซึ่งส่งผลให้ยาขาดแคลน และมีคิวรอรับยายาวเป็นหางว่าวหน้าร้านขายยาต่าง ๆ ในเดือนที่ผ่านมา