ประเทศในเอเชียและแอฟริกาต่างล่าช้าในความพยายามที่จะกำจัดไขมันทรานส์ที่เป็นอันตรายออกจากผลิตภัณฑ์อาหารภายในสิ้นปีนี้ แม้จะมีความคืบหน้าอย่างมากทั่วโลกนับตั้งแต่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดเป้าหมายดังกล่าวในปี 2561
"เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความคืบหน้า (ในการกำจัดไขมันทรานส์ที่เกิดจากอุตสาหกรรม) ค่อนข้างล่าช้าเมื่อเทียบกับยุโรปและทวีปอเมริกา" เรน ยามาโมโตะ หัวหน้าผู้เขียนรายงานและนักวิทยาศาสตร์แผนกโภชนาการและความปลอดภัยทางอาหารของ WHO กล่าว
เธอเสริมว่า "คงจะดีมากที่จะได้เห็นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้นำในหลายด้านที่เกี่ยวกับสุขภาพ รับหน้าที่นำภูมิภาคด้วยการใช้นโยบายแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นไม่มีนโยบายบังคับในเรื่องไขมันทรานส์ในผลิตภัณฑ์อาหาร ขณะที่ไทยเป็นตัวอย่างในเอเชียที่ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับไขมันทรานส์ในปี 2562 ก่อนที่สิงคโปร์ บังกลาเทศ อินเดีย และฟิลิปปินส์จะทำตาม
ทั้งนี้ ไขมันทรานส์ที่เกิดจากอุตสาหกรรมเป็นสารประกอบเทียมของน้ำมันแปรรูป และพบได้ในผลิตภัณฑ์ทอดกรอบ ขนมอบ อาหารสำเร็จรูป และสเปรด หากบริโภคเข้าไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัวด้วยการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น
"ไขมันทรานส์เป็นสารเคมีมีพิษที่ทำให้เสียชีวิตได้และไม่ควรมีอยู่ในอาหาร มันไม่มีประโยชน์ และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมากซึ่งจะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ต่อระบบสุขภาพ" นายแพทย์เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ระบุ