ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหประชาชาติ (UN) ช่วยหาทางแก้ไขสิ่งที่ทางการยูเครนประณามว่าเป็นผลพวงที่ร้ายแรงของสงครามที่ดำเนินมาเป็นเวลา 11 เดือนนั่นคือ การเนรเทศผู้ใหญ่และเด็กหลายพันคนไปยังรัสเซีย
ยูเครนประณามรายงานการเนรเทศผู้คนจำนวนมากไปยังรัสเซียมาเป็นเวลาหลายเดือน โดยประชาชนได้ถูกส่งตัวไปยังพื้นที่ห่างไกลหลายพันกิโลเมตรจากยูเครน ขณะที่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมหรือเจตนาทางอาญา โดยอธิบายการเคลื่อนย้ายของมวลชนว่าเป็นการอพยพ
ปธน.เซเลนสกีระบุในวิดีโอว่า "การหารือมุ่งเน้นไปที่คนของเราที่ถูกผู้ยึดครองเนรเทศไปยังรัสเซีย" โดยเขากล่าวถึงการพูดคุยกับนายฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เมื่อวันพุธ (25 ม.ค.)
"ผู้คนเหล่านี้คือพ่อแม่พี่น้องและลูกหลานของเรา พวกเราจำเป็นต้องมีกลไกในการปกป้องและนำผู้คนเหล่านี้กลับคืนสู่สังคมของเราตามเดิม และนำผู้ที่มีความผิดในการเนรเทศทุกคนมาลงโทษ ผมมั่นใจว่าสถาบันต่าง ๆ ของ UN สามารถแสดงความเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหานี้ได้"
ปธน.เซเลนสกีอธิบายว่า นี่เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เป็นนโยบายของรัสเซียในการกักขังและบังคับผู้ลี้ภัยให้ถือสัญชาติรัสเซีย ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนก็ได้ประณามการลักพาตัวเด็กที่ดำเนินการโดยรัฐบาล