เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐระบุในวันพฤหัสบดี (26 ม.ค.) ว่า FDA ยังไม่พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (stroke) ในกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิด 2 สายพันธุ์หรือไบวาเลนต์ (bivalent) ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า FDA ได้เปิดผลการตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดของรัฐบาลกลาง หลังจากผู้ตรวจสอบจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ตรวจพบว่า วัคซีนดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองสำหรับผู้สูงอายุ
เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เครือข่ายข้อมูลด้านความปลอดภัยวัคซีน (Vaccine Safety Datalink หรือ VSD) ของ CDC ซึ่งตรวจสอบปฏิกิริยารุนแรงต่อวัคซีนนั้น ได้รายงานว่าพบความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง ขณะที่ FDA ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากศูนย์บริการเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคด (Medicaid) หรือ CMS และระบบรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน (VAERS)
ริชาร์ด ฟอร์ชี รองผู้อำนวยการสำนักงานชีวสถิติของ FDA กล่าวว่า "จนถึงขณะนี้ ข้อมูลที่เราได้รับบ่งชี้ว่า ไม่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสำหรับวัคซีนชนิดไบวาเลนต์ในกลุ่มผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป"
FDA ได้ตรวจสอบข้อมูลของ CMS เกี่ยวกับผู้สูงอายุ 4.25 ล้านรายที่ได้รับวัคซีนบูสเตอร์ต้านไวรัสโอมิครอนของไฟเซอร์ และไม่ได้ระบุถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และการตรวจสอบข้อมูลของ VAERS ก็ไม่พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นายฟอร์ชีระบุเสริมว่า กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐก็ได้ดำเนินการตรวจสอบฐานข้อมูลเบื้องต้นด้วย และไม่ได้ระบุถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
ทั้งนี้ นายฟอร์ชีกล่าวกับคณะกรรมการ FDA ว่า "เราได้ติดต่อหน่วยงานกำกับดูแลระหว่างประเทศหลายแห่ง และประเทศต่าง ๆ ในยุโรป รวมทั้งอิสราเอลต่างก็ระบุว่า ไม่พบความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง"