จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกียังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3,760 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตในตุรกีจำนวน 2,316 ราย และในซีเรียจำนวน 1,444 ราย
ทั้งนี้ ตุรกีเผชิญเหตุแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) โดยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 แมกนิจูดในเวลา 04.17 น.ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวอีก 2 ครั้งขนาด 7.6 แมกนิจูด และ 7.5 แมกนิจูดในเวลาต่อมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อ 10 จังหวัดทางใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ รวมทั้งพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวทำให้อาคารบ้านเรือนพังทลายลงมา อีกทั้งยังทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด, ถนนหลายสายได้รับความเสียหาย และทำให้ประชาชนจำนวนมากกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
ขณะนี้หน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (UN) ทั้งในตุรกีและซีเรียต่างก็เรียกร้องให้นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN เร่งระดมทรัพยากรจากประชาคมโลกเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้
รายงานระบุว่า หลายประเทศได้ออกมาประกาศให้ความช่วยเหลือแก่ตุรกี ซึ่งรวมถึง สหรัฐ สหภาพยุโรป (EU) ฝรั่งเศส อังกฤษ ยูเครน สเปน โปแลนด์ สาธารณรัฐเชก สวิตเซอร์แลนด์ และอิหร่าน
ทางด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกีเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือต่อตุรกี ขณะที่นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า "รัสเซียมีเทคโนโลยีและมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ตุรกี หากได้รับการร้องขอ โดยจะขึ้นอยู่กับความจำเป็นของตุรกี"