สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหยื่อแผ่นดินไหวทางตอนใต้ของตุรกีและซีเรียพุ่งทะลุ 7,800 รายแล้วเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งช่วยเหลือผู้ประสบเหตุที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารอย่างเร็วที่สุดท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวจัด
ทั้งนี้ เมื่อภัยพิบัติขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น ยอดผู้เสียชีวิตก็ยิ่งทวีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติ (UN) รายหนึ่งระบุว่า อาจมีเด็กหลายพันคนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือนใน 10 จังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถข้ามขั้นตอนการหารือกับรัฐสภาในการออกกฎหมายใหม่ และจำกัดหรือระงับสิทธิและเสรีภาพต่าง ๆ ได้
ปธน.เออร์โดกันระบุว่า รัฐบาลจะเปิดโรงแรมในศูนย์การท่องเที่ยวของเมืองอันตัลยา (Antalya) ให้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (6 ก.พ.) ก่อนจะตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกที่มีความรุนแรงเกือบเทียบเท่าแผ่นดินไหวในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอาคารสิ่งปลูกสร้างหลายพันแห่ง รวมทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และอพาร์ตเมนต์ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายหมื่นราย และผู้คนในตุรกีและทางตอนเหนือของซีเรียนับไม่ถ้วนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือแสดงความกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตด้านมนุษยธรรมหลังจากเกิดสงครามกลางเมืองมายาวนานเกือบ 12 ปี