ทางการสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ลงมติเป็นการเร่งด่วนเพื่ออนุญาตให้ส่งความช่วยเหลือข้ามพรมแดนตุรกีไปยังทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง โดยพื้นที่ดังกล่าวควบคุมโดยกลุ่มกบฎ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2557 องค์การสหประชาชาติสามารถส่งความช่วยเหลือผ่านทางตุรกีภายใต้อาณัติของ UNSC ไปยังประชาชนหลายล้านคนในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงคราม แต่ในปัจจุบันมีการจำกัดให้สามารถใช้ช่องทางผ่านพรมแดนได้เพียงจุดเดียวเท่านั้น
นางลินดา โทมัส-กรีนฟีลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า "ตอนนี้เวลาแต่ละชั่วโมงล้วนมีความสำคัญ ผู้คนในพื้นที่ประสบภัยต่างรอคอยความช่วยเหลือจากเรา เราไม่สามารถละทิ้งพวกเราเขาได้ เราจำเป็นต้องลงมติทันทีในการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องขององค์การสหประชาชาติในการอนุญาตให้เปิดจุดข้ามพรมแดนเพิ่มเติมสำหรับส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ถึงเวลาแล้วที่ต้องเร่งลงมืออย่างตั้งใจและเร่งด่วน"
ด้านนายมาร์ติน กริฟฟิธส์ รองเลขานุการประจำสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ว่า จะขอให้ UNSC อนุญาตให้สามารถส่งความช่วยเหลือผ่านพรมแดนเพิ่มอีก 2 จุด โดยเน้นย้ำว่าเป็นไปด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมอย่างชัดเจน โดยขณะนี้นายกริฟฟิธส์อยู่ในตุรกีและกำลังจะเดินทางไปยังซีเรีย
แหล่งข่าวนักการทูตเผยว่า ในบรรดาสมาชิก UNSC จาก 15 ชาตินั้น บราซิลและสวิตเซอร์แลนด์เป็นผู้นำในการเจรจาเกี่ยวกับการดำเนินการใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในซีเรีย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแผยแพร่ร่างมติเพื่ออนุญาตให้ผ่านพรมแดนเพิ่มเติม
การลงมติดังกล่าวจะต้องมีการเห็นชอบ 9 เสียง โดยจะต้องไม่มีการวีโต้หรือคัดค้านจากรัสเซีย จีน สหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส โดยรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรของซีเรียกล่าวว่าอาณัติให้ผ่านพรมแดนเพียงจุดเดียวก็เพียงพอแล้ว
ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกีและซีเรียซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากว่า 33,000 รายแล้วในขณะนี้ โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในซีเรียจำนวน 3,5000 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ