ผลวิจัยชี้กลุ่ม G20 จ่อใช้พลาสติกเพิ่ม 1.7 เท่าภายในปี 2593

ข่าวต่างประเทศ Monday February 27, 2023 15:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

อีโคโนมิสต์ อิมแพค (Economist Impact) และนิปปอน ฟาวน์เดชัน (Nippon Foundation) เผยแพร่รายงานการวิจัยร่วมกันในวันนี้ (27 ก.พ.) โดยระบุว่า การบริโภคพลาสติกในกลุ่มประเทศ G20 ในปี 2593 จะสูงกว่าปี 2562 ถึง 1.7 เท่า หรือ 451 ล้านตัน ในปี 2593 จาก 261 ล้านตันในปี 2562 หากภาครัฐไม่มีการงัดมาตรการใหม่ออกมาเพื่อลดการใช้พลาสติก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปัญหามลพิษพลาสติกทางทะเล
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยฉบับดังกล่าวระบุด้วยว่า แม้จะมีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาด้านการบริโภคพลาสติก เช่นการที่ประเทศต่าง ๆ ออกคำสั่งห้ามใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกบางชนิด หรือออกมาตรการจัดเก็บภาษี แต่การบริโภคพลาสติกจะยังคงสูงถึง 325 ล้านตัน

ทีมนักวิจัยเตือนว่า หากไม่มีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการใช้งานพลาสติก ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจานั้น ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งปัญหามลพิษทางทะเลที่เกิดจากขยะพลาสติกได้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการประชุมการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 นั้น 175 ประเทศได้ลงนามในมติเพื่อหยุดยั้งมลพิษพลาสติก แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในมาตรการแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการเจรจาระหว่างรัฐบาลมีเป้าหมายร่างข้อตกลงที่มีผลตามกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2567

องค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า ขยะพลาสติกประมาณ 11 ล้านตันถูกทิ้งลงสู่ทะเลในทุก ๆ ปี โดยคาดว่าปริมาณจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าภายในปี 2583 นอกจากนี้แล้ว พลาสติกยังทำให้สัตว์ทะเลและสัตว์ในระบบนิเวศชายฝั่งกว่า 800 สายพันธุ์ตกอยู่ในความเสี่ยงจากอันตรายต่าง ๆ เช่น การกลืนกินพลาสติกเข้าไป หรือการถูกพันหรือถูกรัดโดยพลาสติก

อนึ่ง ประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 ประกอบไปด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล อังกฤษ แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ