นางฮันนา โนฮิเน็ค ประธานกลุ่มที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันโรคขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า "แต่ละประเทศควรพิจารณาตามบริบทเฉพาะของตนเองในการตัดสินใจว่า จะเดินหน้าฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้มีความเสี่ยงต่ำ อาทิ เด็กและเยาวชนที่มีสุขภาพดี หรือไม่ ในขณะที่ต้องกวดขันเรื่องการฉีดวัคซีนชนิดอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรในช่วงอายุนี้" ทั้งนี้ WHO ระบุในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับวัคซีนของ WHO ว่า เด็กและวัยรุ่นที่สุขภาพดีอาจไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 อีกต่อไป เนื่องจากทั่วโลกได้ปรับตัวให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเชื้อโควิด-19 ได้อย่างถาวร
WHO ระบุในแถลงการณ์ประกาศแนวทางปฏิบัติฉบับปรับปรุงสำหรับการฉีดวัคซีนว่า ประชากรผู้สูงอายุและผู้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโควิด-19 ภายใน 6-12 เดือนหลังการฉีดวัคซีนเข็มล่าสุด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คำแนะนำครั้งล่าสุดของ WHO ในครั้งนี้ มีขึ้นหลังอัตราการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นลดลงในประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่จีนไปจนถึงสหรัฐ โดยมีชาวอเมริกันเพียง 16% ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสูตรป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนโดยเฉพาะ