สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) ว่า นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กำลังเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรบริจาคเงิน 500 ล้านยูโร (543 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี เพื่อช่วยเหลือยูเครนด้วยการให้การสนับสนุนที่ไม่ใช่อาวุธและการช่วยเหลืออื่น ๆ ในระยะยาว
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายสโตลเทนเบิร์กต้องการให้ชาติพันธมิตรเพิ่มการบริจาคในกองทุนความช่วยเหลือยูเครนอย่างครอบคลุมของนาโต ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือระยะสั้น เช่น เชื้อเพลิง อุปกรณ์ป้องกัน และระบบต่อต้านโดรน เพื่อตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย
กองทุนนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือระยะยาวแก่ยูเครนด้วย เพื่อช่วยปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและเป็นไปตามมาตรฐานการทำงานร่วมกันของนาโต อย่างไรก็ตาม ยังมีรายละเอียดอีกมากที่ยังต้องดำเนินการ
แม้ว่าการช่วยเหลือดังกล่าวจะไม่รวมถึงอาวุธ แต่การช่วยให้ยูเครนเปลี่ยนเข้าสู่มาตรฐานของนาโตนั้น อาจรวมถึงการให้ชาติพันธมิตรจำเป็นต้องช่วยเหลือด้านอาวุธ ด้วยการจัดส่งยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ในขณะที่สงครามยังดำเนินอยู่ เนื่องจากชาติพันธมิตรมีอาวุธสมัยโซเวียตเหลืออยู่น้อย
นายสโตลเทนเบิร์กกล่าวเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากชาติพันธมิตรจะตกลงเริ่มดำเนินงานในโครงการช่วยเหลือระยะยาวแก่ยูเครน เมื่อพวกเขามารวมตัวกันในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเพื่อร่วมประชุม 2 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.)
นอกเหนือจากการช่วยเหลือในทันทีเพื่อช่วยยูเครนป้องกันรัสเซียแล้ว นายสโตลเทนเบิร์กกล่าวอีกว่า ชาติพันธมิตรจะพิจารณาการร่วมมือระยะยาวกับยูเครนเพื่อให้การสนับสนุนหลังจากสงครามสิ้นสุดลง ซึ่งนั่นจะช่วยให้ยูเครนเข้าใกล้นาโตมากขึ้น ด้วยการดำเนินการปฏิรูป ด้วยการดำเนินการปรับปรุงสถาบันการป้องกันและความมั่นคงของตนให้ทันสมัย รวมถึงการต่อสู้กับการทุจริตคอร์รัปชัน และด้วยการย้ายจากยุทโธปกรณ์, มาตรฐานและหลักการสมัยโซเวียต ไปสู่มาตรฐานและหลักการของนาโต