สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ว่า รัฐบาลโคลอมเบียพยายามเร่งอพยพประชาชนราว 2,500 ครัวเรือน ที่อาศัยอยู่ใกล้กับภูเขาไฟเนวาโด เดล รูอิซ (Nevado del Ruiz) ซึ่งทางรัฐกำลังเฝ้าระวังการปะทุที่อาจเกิดขึ้น แต่ประชาชนบางส่วนไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่
การปะทุของภูเขาไฟลูกนี้เมื่อปี 2528 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 25,000 ราย โดยมีดินถล่มและเศษหินถล่มที่พักอาศัยทั้งหมด นับเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย
รัฐบาลโคลอมเบียได้ยกระดับการเตือนภัยของภูเขาไฟเป็นระดับสีส้ม หลังจากเกิดคลื่นไหวสะเทือน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดการปะทุขึ้นในอีกไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ และได้เริ่มดำเนินการอพยพเชิงป้องกันแล้ว โดยให้ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งนายกุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ได้เร่งให้มีการอพยพรวดเร็วยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่ด้านภัยพิบัติกล่าวว่า อาจจะต้องอพยพปศุสัตว์ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนจำนวนมากในพื้นที่ชนบท หรืออาจจะอนุญาตให้เกษตรกรกลับมาดูแลพวกมันในช่วงระหว่างวัน
หน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติโคลอมเบียระบุว่า มีประชาชนประมาณ 57,000 คน อาศัยกระจายอยู่ในเขตอันตรายของภูเขาไฟ ซึ่งกินพื้นที่ 6 จังหวัด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การอพยพเชิงป้องกันดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดการปะทุขึ้น เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้การติดต่อผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมากที่สุดเป็นไปอย่างยากลำบาก