ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประณามกองกำลังทหารของรัสเซียที่โจมตีคริสตจักรนิกายออร์โธดอกซ์เมื่อวันอาทิตย์ (9 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันปาล์มซันเดย์ (Palm Sunday) หรือวันอาทิตย์ใบปาล์มซึ่งเป็นวันสำคัญของศาสนาคริสต์ รวมทั้งการโจมตีเมืองซาโปริซเซีย ซึ่งเป็นเหตุให้พ่อลูกคู่หนึ่งเสียชีวิต
กองทัพยูเครนรายงานว่า รัสเซียโจมตีและยิงกระสุนปืนใหญ่ถล่มแนวหน้าในยูเครน ซึ่งเมืองที่ตกเป็นเป้าโจมตีหนักที่สุดคือเมืองบัคมุตและอัฟดีฟกา ในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน โดยเมืองบัคมุตเป็นสมรภูมิที่สู้รบมายาวนานที่สุดในสงครามครั้งนี้ และกองกำลังรัสเซียปิดล้อมเมืองบัคมุตมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว
หน่วยบริการเหตุฉุกเฉินของยูเครน ระบุว่า รัสเซียโจมตีอาคารที่พักอาศัยของประชาชนในเมืองซาโปริชเซีย ส่งผลให้ชายวัย 50 ปี และลูกสาววัย 11 ขวบ เสียชีวิต ส่วนภรรยาของชายคนดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าด้วยการดึงตัวออกจากซากปรักหักพัง
"นี่สิ่งที่รัฐผู้ก่อการร้ายเฉลิมฉลองวันปาล์มซันเดย์ นี่คือวิถีทางที่รัสเซียทำให้ตนเองถูกโดดเดี่ยวจากโลกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม" ปธน.เซเลนสกีกล่าว
ปธน.เซเลนสกียังได้กล่าวชื่นชมกองกำลังป้องกันหลาย ๆ หน่วยในหลายพื้นที่ทางตะวันออก และกล่าวว่า "เราคาดหวังว่าวันปาล์มซันเดย์ในปีหน้าจะเป็นไปอย่างสงบสุขและมีเสรีภาพ สำหรับประชาชาวยูเครนทุกคน"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประชากรส่วนใหญ่จากทั้งหมด 41 ล้านคนของยูเครน นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งเริ่มเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ในสัปดาห์นี้
ด้านสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสซึ่งเคยวิพากษ์วิจารณ์สงครามของรัสเซีย ได้ทรงอธิษฐานเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ที่กรุงวาติกัน โดยทรงอธิษฐานว่าขอให้ชาวยูเครนอันเป็นที่รักสามารถเดินบนเส้นทางสู่สันติภาพ และขอให้แสงแห่งเทศกาลอีสเตอร์ส่องสว่างถึงชาวรัสเซียด้วย"