การขยายขนาดการซ้อมรบร่วมประจำปีครั้งนี้ตอกย้ำว่า ความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐรุดหน้ามากยิ่งขึ้น ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ขึ้นกุมบังเหียนบริหารประเทศฟิลิปปินส์ จากเดิมที่มีการลดขนาดการซ้อมรบในสมัยที่นายโรดริโก ดูเตอร์เตยังคงรั้งตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ซึ่งในเวลานั้นนายดูเตอร์เตมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีน
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ฟิลิปปินส์และสหรัฐจะจัดการซ้อมรบทางทะเลด้วยกระสุนจริง ภายใต้ภารกิจซ้อมรบที่เรียกว่า บาลิกาตัน (Balikatan) หรือแปลได้ว่า "เคียงบ่าเคียงไหล่" ซึ่งกินระยะเวลา 3 สัปดาห์
พลตรีมาร์วิน ลิคูดีน ผู้อำนวยการการซ้อมรบของฟิลิปปินส์ กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการซ้อมรบว่า "ประเด็นสำคัญของการซ้อมรบครั้งนี้คือการซ้อมรบร่วมด้วยกระสุนจริงบริเวณชายฝั่ง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฝึกซ้อมด้านเทคนิคและขั้นตอนทางยุทธวิธีในการดำเนินการโจมตีทางทะเล"
ด้านกระทรวงต่างประเทศของจีนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบร่วมดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ (10 เม.ย.) โดยระบุว่า "สหรัฐและฟิลิปปินส์ต้องไม่แทรกแซงข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และต้องไม่สร้างภัยคุกคามต่ออธิปไตยเหนือดินแดน สิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล รวมทั้งผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีน"