สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ว่า ฮ่องกงตามหลังคู่แข่งอย่างสิงคโปร์ในการจัดอันดับเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยตกลงมาอยู่อันดับที่ 7 ตามหลังสิงคโปร์อยู่ 2 อันดับ จากที่เคยได้อันดับ 4 เมื่อปี 2555
จำนวนเศรษฐีในฮ่องกงลดลง 27% เหลือ 129,500 คนในช่วงปี 2555 - 2565 ในขณะที่สิงคโปร์มีเศรษฐีเพิ่มขึ้น 40% สู่ระดับ 240,100 คน จากข้อมูลการจัดอันดับของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเพื่อการย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ ร่วมกับนิว เวิลด์ เวลธ์ (New World Wealth) ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลความมั่งคั่งระดับโลก
การที่จีนพยายามควบคุมฮ่องกงอยู่ในกำมืออย่างเหนียวแน่น เป็นตัวผลักดันให้กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งและการลงทุนจำนวนมากในบริษัทต่าง ๆ หลั่งไหลออกจากฮ่องกงไปยังศูนย์กลางทางการเงินแห่งอื่น ๆ ในขณะที่บริษัทด้านการลงทุนของอภิมหาเศรษฐีในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ในช่วงระหว่างปี 2564 และ 2563 ส่วนคู่แข่งอย่างฮ่องกงเป็นฝ่ายไล่ตามและเปิดตัวมาตรการลดหย่อนภาษีเมื่อเดือนที่แล้ว
รายงานของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส เปิดเผยว่า คนร่ำรวยส่วนใหญ่ที่มีศักยภาพในการลงทุนอย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาศัยอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ส่วนย่านเบย์แอเรีย (Bay Area) ของซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิสก็อยู่ในอันดับต้น ๆ ด้วย รายงานยังเปิดเผยอีกว่าลอนดอนร่วงไปอยู่อันดับที่ 4 ขณะที่โตเกียวตกไปอยู่อันดับที่ 2
นายเยิร์ก สเตฟเฟน ซีอีโอของเฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์กล่าวว่า เมืองส่วนใหญ่ที่ติดอันดับต่างอยู่ในประเทศที่มีโครงการช่วยเหลือด้านการโยกย้ายเงินทุนและส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เพื่อแลกกับการอยู่อาศัยหรือสิทธิการเป็นพลเมือง
ทั้งนี้ 10 อันดับเมืองรวยที่สุดในโลกประจำปีนี้ได้แก่ 1.นิวยอร์กซิตี 2.โตเกียว 3.เบย์ แอเรีย 4.ลอนดอน 5.สิงคโปร์ 6.ลอสแอนเจลิส 7.ฮ่องกง 8.ปักกิ่ง 9.เซี่ยงไฮ้ 10.ซิดนีย์