สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐ โดยชายคนหนึ่งยิงเพื่อนบ้านเสียชีวิต 5 ราย รวมทั้งเด็กชายวัย 8 ขวบ หลังจากที่พวกเขาขอให้ผู้ก่อเหตุหยุดยิงปืนที่สนามหญ้าหน้าบ้านเพราะเสียงรบกวนจะทำให้เด็กตื่น ขณะนี้คนร้ายยังลอยนวล
นายเกร็ก เคเปอร์ส นายอำเภอประจำเคาน์ตีซานจาซินโต แถลงเมื่อวันเสาร์ (29 เม.ย.) ว่า ทางตำรวจและเจ้าหน้าที่ FBI กำลังออกตามล่านายฟรานซิสโก โอโรเปซา ผู้ต้องสงสัยวัย 38 ปี ซึ่งใช้ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติสไตล์ AR-15 กราดยิงภายในบ้านของเพื่อนบ้านเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 เม.ย.) โดยทางการออกค้นหาคนร้ายในพื้นที่ป่าในละแวกนั้น 18 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ
"เราใช้สุนัข คนขี่ม้า และโดรนทางอากาศเพื่อช่วยในการค้นหา" นายเคเปอร์สกล่าว พร้อมเสริมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบโทรศัพท์มือถือและเสื้อผ้าบางส่วนถูกทิ้งในพื้นที่ค้นหา
ตำรวจกล่าวว่าเหยื่อทั้ง 5 คนมาจากฮอนดูรัส ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ "เกือบจะในลักษณะประหารชีวิต" ขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ 10 คนในบ้านหลังดังกล่าว และรอดชีวิตมาได้ 5 คน
ในคืนเกิดเหตุ ผู้ต้องสงสัยออกมายิงปืนในสวนหน้าบ้าน ซึ่งทำให้เหยื่อบางคนออกมาเตือนว่าเขากำลังส่งเสียงรบกวน
"ชายคนนั้นเดินไปที่รั้วแล้วพูดว่า 'เฮ้ย เรากำลังจะให้เด็กเข้านอนอยู่นะ'" นายเคเปอร์สกล่าว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายแยกย้ายกันเข้าบ้าน นายโอโรเปซา "บรรจุกระสุนใหม่แล้วเดินออกมาที่ไดรฟ์เวย์" ไปทางถนน จากนั้น "เข้าไปในบ้านคนแล้วเริ่มยิง"
ต่อมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานของนายเคเปอร์สได้รับโทรศัพท์จากเมืองคลีฟแลนด์ ว่ามีเหตุก่อกวนยามวิกาลเมื่อเวลาประมาณ 23:31 น. เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบเหยื่อหลายคนถูกยิงเสียชีวิต
อนึ่ง ตำรวจเคยถูกเรียกตัวไปที่บ้านของนายโอโรเปซา 2-3 ครั้งก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการร้องเรียนว่าเขายิงปืนเสียงดังในสวนหน้าบ้าน
ด้านนายเอ็นริเก เรนา รัฐมนตรีต่างประเทศฮอนดูรัสกล่าวว่า สถานกงสุลฮอนดูรัสได้ติดต่อกับทางการเท็กซัสเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว
"เราเรียกร้องให้มีการใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ต่อบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมครั้งนี้" นายเรนาระบุในทวิตเตอร์