หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล (WSJ) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายเจฟฟรีย์ เอปสตีน อดีตนักการเงินผู้ต้องหาคดีค้าประเวณีที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น เคยพยายามแบล็กเมลนายบิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ในเรื่องที่เขาเป็นชู้กับมิลา แอนโตโนวา นักเล่นไพ่บริดจ์ชาวรัสเซีย
นายเอปสตีนเอาเรื่องดังกล่าวมาขู่นายเกตส์ให้คืนเงินค่าเล่าเรียนในโรงเรียนสอนเขียนโค้ดที่นายเอปสตีนออกให้กับแอนโตโนวา โดยคำขู่ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายเกตส์ไม่ยอมเข้าร่วมกองทุนการกุศลที่นายเอปสตีนพยายามจัดตั้งขึ้น
แหล่งข่าวเปิดเผยกับ WSJ ว่า นายเกตส์พบกับแอนโตโนวาในทัวร์นาเมนต์การแข่งเล่นไพ่บริดจ์ปี 2553 ซึ่งขณะนั้นฝ่ายหญิงยังอยู่ในช่วงวัย 20 ปี โดยวิดีโอยูทูบที่โพสต์เมื่อปี 2553 ปรากฏภาพแอนโตโนวาเล่าถึงช่วงที่เธอได้แข่งเล่นไพ่บริดจ์กับนายเกตส์
ต่อมา นายบอริส นิโคลิค ที่ปรึกษาคนสนิทของนายเกตส์ พาเธอไปรู้จักกับนายเอปสตีนในปี 2556 โดยแอนโตโนวาขอให้นายเอปสตีนช่วยระดมทุนให้เธอได้เปิดธุรกิจสอนเล่นไพ่บริดจ์ทางออนไลน์ แต่แอนโตโนวาเปิดเผยกับ WSJ ว่า ในที่สุดนายเอปตีนก็ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจของเธอแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี นายเอปสตีนช่วยจ่ายค่าเล่าเรียนในโรงเรียนสอนเขียนโค้ดและได้จัดหาอพาร์ตเมนต์ในนิวยอร์กให้เธอ
"เอปสตีนตกลงที่จะจ่ายและเขาจ่ายให้กับทางโรงเรียนโดยตรงโดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น" แอนโตโนวากล่าวกับทาง WSJ
"เมื่อฉันถาม เขาก็บอกประมาณว่าเขารวยและอยากช่วยคนเท่าที่ทำได้"
ในช่วงเดียวกันนี้เอง นายเอปสตีนพยายามตั้งกองทุนการกุศลกับเจพี มอร์แกน โดยเขาต้องการให้บุคคลระดับมหาเศรษฐีแต่ละคนบริจาคเงินเข้ากองทุนอย่างน้อย 100 ล้านดอลลาร์ และจ่ายค่าดำเนินการให้นายเอปสตีนเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ นายเอปสตีนพยายามตั้งกองทุนการกุศลดังกล่าวเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของตนหลังจากที่ต้องคดีชักชวนและจัดหาผู้เยาว์เพื่อค้าประเวณีในปี 2551
ในอีเมลที่ส่งถึงผู้บริหารของเจพี มอร์แกน นายเอปสตีนพยายามแสดงตนว่าเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิดของนายเกตส์ แม้ว่าจะไม่ได้รวมอีเมลของนายเกตส์ไว้ในการสนทนาเหล่านี้เลยก็ตาม
"โดยพื้นฐานแล้ว [กองทุน] นี้จะช่วยให้บิลสามารถเข้าถึงคน การลงทุน การจัดสรร การกำกับดูแลที่มีคุณภาพสูงขึ้น โดยไม่กระทบชีวิตแต่งงานของเขาหรือเรื่องอ่อนไหวของพนักงานในมูลนิธิปัจจุบันของเขา" นายเอปสตีนเขียนในอีเมลในเดือนส.ค. 2554
อย่างไรก็ดี โฆษกของนายเกตส์ระบุว่า นายเอปสตีนไม่เคยทำงานให้นายเกตส์และนายเอปสตีนสื่อสารกับเจพี มอร์แกน และคนอื่น ๆ โดยบิดเบือนว่ามีสายสัมพันธ์ดังกล่าวกับนายเกตส์
แหล่งข่าวระบุกับทาง WSJ ว่า ในปี 2560 นายเอปสตีนส่งอีเมลถึงนายเกตส์เกี่ยวกับเรื่องแอนโตโนวาหลังจากที่ความสัมพันธ์นอกใจของทั้งสองสิ้นสุดลงไปแล้วหลายปี โดยนายเอปสตีนขอให้นายเกตส์คืนเงินค่าเรียนเขียนโค้ดของแอนโตโนวามาให้เขา
"แหล่งข่าวเผยว่า โทนของข้อความดังกล่าวคือ เอปสตีนรู้เรื่องการนอกใจครั้งนี้และอาจจะแฉได้" WSJ รายงาน
ต่อมาในปี 2562 อัยการสหรัฐตั้งข้อหานายเอปสตีนว่าค้าประเวณีผู้เยาว์และสมรู้ร่วมคิดในการค้าประเวณี ด้านนายเอปสตีนปฏิเสธข้อกล่าวหาและถูกปฏิเสธไม่ให้ประกันตัว หลายเดือนต่อมา นายเอปสตีนเสียชีวิตขณะถูกคุมขังอย่างมีปริศนา โดยดูเหมือนว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย
ไม่กี่วันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต นายเอปสตีนได้เปลี่ยนแปลงพินัยกรรมของตนแล้วใส่ชื่อนายนิโคลิคเป็นผู้จัดการมรดกคนสำรอง โดยนายนิโคลิคกล่าวว่าเอปสตีนไม่ได้หารือกับตัวเขาในเรื่องนี้มาก่อน และต่อมาเขาก็ปฏิเสธที่จะทำหน้าที่ดังกล่าว
"เขาใส่ชื่อบิลไปไม่ได้เพราะมันจะดูโจ่งแจ้งเกินไป เขาเลยเลือกผม ผมเชื่อมาตลอดว่านั่นน่าจะเป็นการทำไปเพื่อแก้แค้นบิล เกตส์"