รายงานจากโดยการท่าเรือและโลจิสติกส์แห่งนครฉงชิ่ง คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงเผยดัชนีการพัฒนาระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ อยู่ที่ระดับ 135.2 จุดในปี 2565 เพิ่มขึ้น 10.3% และ 32.5% เมื่อเทียบกับปี 2564 และ 2563 ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระเบียงการค้าดังกล่าวมีการใช้กลยุทธ์อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่มูลค่าการนำเข้าและส่งออกระหว่างภูมิภาคตามแนวระเบียงการค้าและประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มขึ้นจาก 6.916 แสนล้านหยวนในปี 2562 สู่ระดับ 8.817 แสนล้านหยวนในปี 2565
หลิว เว่ย ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานด้านโลจิสติกส์และการดำเนินงานของระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ กล่าวว่า ดัชนีดังกล่าวใช้ปี 2562 เป็นฐาน และประกอบด้วยดัชนีย่อยสำคัญ 3 ดัชนี ได้แก่ ระดับการพัฒนา คุณภาพการพัฒนา และความสามารถในการแข่งขัน เพื่อแสดงภาพรวมของการพัฒนาระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่
ระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) เป็นเส้นทางการค้าและโลจิสติกส์ที่ร่วมกันสร้างโดยหลายภูมิภาคระดับมณฑลในภาคตะวันตกของจีนและประเทศสมาชิกอาเซียน
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวมาจากรายงานที่เผยแพร่ระหว่างพิธีเปิดการประชุมนานาชาติว่าด้วยการค้าและการลงทุนภาคตะวันตกของจีน (Western China International Fair for Investment and Trade) ครั้งที่ 5 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ณ นครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน
ในปี 2565 ดัชนีย่อยด้านระดับการพัฒนาเพิ่มขึ้น 17.6 จุด สู่ระดับ 156.8 จุด ขณะที่ดัชนีย่อยด้านคุณภาพการพัฒนาขยับลงเล็กน้อย 1.9 จุด สู่ระดับ 111.3 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าการก่อสร้างและการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของระเบียงการค้าดำเนินไปได้ด้วยดี ขณะที่โครงสร้างการค้าของภูมิภาคต่าง ๆ ตามแนวระเบียงการค้าก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ส่วนดัชนีย่อยด้านความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น 14.8 จุด สู่ระดับ 125.6 จุด โดยเป็นผลพวงมาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาโลจิสติกส์รูปแบบใหม่ ๆ