เมืองซีอานจัดการประชุมแบบตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างประมุขแห่งรัฐของจีน กับ 5 ประเทศแถบเอเชียกลาง โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์หลักในการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง เพื่อระลึกถึงมิตรภาพอันเก่าแก่นับพันปี พร้อมยกย่องความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวาในยุคใหม่
ปธน.สีเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนซึ่งกันและกัน การพัฒนาร่วมกัน พร้อมรักษาความมั่นคงและมิตรภาพที่ยั่งยืนในระดับสากล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างชุมชนจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกัน
ในขณะที่พบปะหรือพูดคุยกับปธน.สีนั้น บรรดาผู้นำต่างแสดงความเชื่อมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือกับจีน โดยออกตัวสนับสนุนความคิดริเริ่มที่จีนเสนอในด้านการพัฒนา ความมั่นคง และอารยธรรมระดับโลก
เอเชียกลางเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) โดยปธน.สีได้เสนอให้สร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมขึ้นเป็นครั้งแรก ขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยนาซาร์บาเยฟของคาซัคสถานเมื่อเดือนกันยายน 2556 ซึ่งอีกหนึ่งเดือนต่อมา เขาก็ได้เสนอให้สร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ในอินโดนีเซียด้วย
ปธน.สี กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จีนและประเทศต่าง ๆ ในเอเชียกลางได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อฟื้นฟูเส้นทางสายไหมอย่างเต็มที่ และกระชับความร่วมมือที่มุ่งเน้นอนาคตอย่างจริงจัง เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของเราไปสู่ยุคใหม่
ปธน.สียังยกย่องทางหลวงจีน-คีร์กีซสถาน-อุซเบกิสถาน ทางด่วนจีน-ทาจิกิสถาน ท่อส่งน้ำมันดิบจีน-คาซัคสถาน และท่อส่งก๊าซจีน-เอเชียกลาง โดยเปรียบเป็นเส้นทางสายไหมในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็ยกให้รถไฟบรรทุกสินค้าจีน-ยุโรป รถบรรทุกและเที่ยวบินขนส่งสินค้าเป็นรถไฟอูฐด้วย
นอกเหนือจากความร่วมมือแบบดั้งเดิมแล้ว จีนและเอเชียกลางควรสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ ๆ เพื่อผลักดันการเติบโตทางการเงิน การเกษตร การบรรเทาความยากจน การพัฒนาสีเขียวและคาร์บอนต่ำ บริการทางการแพทย์ สุขภาพ และนวัตกรรมดิจิทัล
การค้าระหว่างจีนกับทั้ง 5 ประเทศแถบเอเชียกลางนี้มีมูลค่าถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 100 เท่านับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเมื่อนับจนถึงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาแล้ว กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า หุ้นการลงทุนโดยตรงของจีนในเอเชียกลางอยู่ที่กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์