นายจาง จุน ผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ (UN) ได้เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ แก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และช่วยให้พื้นที่ที่มีความขัดแย้งนั้นบรรลุสันติภาพและเสถียรภาพ โดยเขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการปกป้องพลเรือนและรับประกันความมั่นคงทางอาหาร
นายจางกล่าวกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ในการอภิปรายอย่างเปิดเผยในหัวข้อ "การรับรองความปลอดภัยและศักดิ์ศรีของพลเรือนในความขัดแย้ง: การจัดการกับความไม่มั่นคงทางอาหารและการปกป้องบริการที่จำเป็น" ว่า วิกฤตอาหารที่เลวร้ายลงทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมย่ำแย่ลงและเพิ่มความทุกข์ให้กับพลเรือนในพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้ง
นายจางระบุว่า "เราเรียกร้องให้ฝ่ายที่ขัดแย้งกันปฏิบัติตามมติ 2417 และ 2573 ของ UNSC โดยปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงกฎหมายมนุษยธรรม เพื่อปกป้องพลเรือน ให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงผู้หญิงและเด็ก และเพื่อรับประกันความปลอดภัยและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยไม่มีข้อจำกัด"
นอกจากนี้ เขากล่าวว่า "ทุกประเทศควรปฏิบัติตามจุดประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ สนับสนุนความร่วมมือ และปฏิเสธการเผชิญหน้า เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อสันติภาพ"
ทั้งนี้ เขาได้เรียกร้องให้เหล่าผู้บริจาคดั้งเดิมเพิ่มความช่วยเหลือ, ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกรณีฉุกเฉิน และปฏิบัติต่อข้อกำหนดด้านมนุษยธรรมของประเทศผู้รับทั้งหมดอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มีเงื่อนไขทางการเมืองหรือการเลือกปฏิบัติใด ๆ ทั้งสิ้น
เขาเน้นย้ำว่า "ความช่วยเหลือไม่ควรถือเป็นการคานอำนาจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ควรมีเงื่อนไขเพิ่มเติม และไม่มีการเลือกปฏิบัติเมื่อต้องให้ความช่วยเหลือ โดยประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน"