บริษัท ออมรอน เฮสธแคร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 50 ปีสำหรับการผลิตเครื่องวัดความดันโลหิตในปีนี้ หลังจากที่ ออมรอน เฮสธแคร์ เปิดตัวเครื่องวัดความดันโลหิตแบบแมนนวลและแบบมาโนมิเตอร์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2516 นับตั้งแต่นั้นบริษัทก็ได้พัฒนาและผลิตเครื่องวัดความดันโลหิตอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน บริษัทมียอดขายมากกว่า 350 ล้านเครื่องในกว่า 110 ประเทศทั่วโลก
อายูมุ โอคาดะ ประธานและซีอีโอบริษัท ออมรอน เฮสธแคร์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ เรากำลังเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของการเปิดตัวเครื่องวัดความดันโลหิตออมรอน ในโอกาสนี้ ต้องขอแสดงความขอบคุณจากใจจริงไปยังลูกค้าผู้มีอุปการะคุณที่ให้การสนับสนุนเครื่องวัดความดันโลหิตของเราอย่างต่อเนื่อง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจเป็นที่รู้กันว่าเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของโลก และในขณะที่ประชากรในหลายประเทศมีอายุมากขึ้น คาดว่าจำนวนผู้ป่วยที่เป็นโรคเหล่านี้จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น เรายังคงมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ที่ว่า 'Going for ZERO' (ขจัดปัญหาหลอดเลือดสมองและหัวใจให้เหลือศูนย์) ในอนาคต เราจะยังคงเดินหน้ามีส่วนร่วมในการยืดอายุขัยที่มีสุขภาพดีของผู้คนทั่วโลก ด้วยการนำเสนออุปกรณ์และบริการที่ปรับให้เหมาะกับการแก้ปัญหาด้านสุขภาพ
บริษัทเชื่อมั่นในเรื่องความสำคัญของการตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้าน แม้การอ่านค่าความดันโลหิตจะสามารถทำได้ที่สถานพยาบาลเท่านั้น โดยในปี 2534 บริษัทได้เปิดตัวเครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติเครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีฟัซซีลอจิก (fuzzy logic) หรือฟังก์ชันตั้งค่าความดันอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความแม่นยำและใช้งานง่ายกว่าเครื่องวัดแบบแมนนวล
นอกจากเครื่องวัดความดันโลหิตแล้ว บริษัทยังทุ่มเทความพยายามเพื่อปรับปรุงและพัฒนาผ้าพันแขนสำเร็จรูปที่ผู้ใช้นำไปพันแขนของตนเองได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งยกระดับขีดความสามารถในการใช้งานและความแม่นยำในการวัด โดยขยายขอบเขตฟังก์ชันสนับสนุนเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้รักษาท่าทางการวัดที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการตรวจวัดความดันโลหิตที่บ้านในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านการพัฒนาและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่มีความแม่นยำและผ่านการตรวจสอบทางการแพทย์ บริษัทยังสนับสนุนโครงการวิจัยโอฮาซามะ (Ohasama Study) ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี 2529 ที่เมืองโอฮาซามะ จังหวัดอิวาเตะ โดยส่งมอบเครื่องวัดความดันโลหิตออมรอนประมาณ 300 เครื่องเพื่อใช้ในการวิจัย
เมื่อปี 2553 บริษัทได้เปิดตัวบริการจัดการด้านสุขภาพอย่างเวลเนสลิงก์ (WellnessLINK) ในตลาดญี่ปุ่น ขณะที่แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนสำหรับการจัดการสุขภาพอย่าง ออมรอน คอนเน็กต์ (OMRON connect) เปิดให้บริการแล้วในกว่า 140 ประเทศ นอกจากนี้ ในปี 2563 บริษัทได้เปิดตัวบริการติดตามผู้ป่วยทางไกลในสหรัฐ บริการนี้ช่วยให้ผู้ใช้แชร์ค่าความดันโลหิตที่บ้านกับแพทย์ได้ เพื่อส่งเสริมการจัดการโรคหัวใจและหลอดเลือดก่อนที่อาการจะแย่ลง บริษัทได้ขยายขอบเขตธุรกิจด้วยการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ซึ่งสนับสนุนการรักษาอาการความดันโลหิตสูง