บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ คาดการณ์ว่า ภาพยนตร์เรื่อง เงือกน้อยผจญภัย หรือเดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด (The Little Mermaid) เวอร์ชั่นคนแสดง จะมียอดจำหน่ายตั๋วในสหรัฐจำนวน 117.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงเทศกาลวันหยุด 4 วันเนื่องในโอกาสวันรำลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ หรือ Memorial Day
ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์ว่า เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ซึ่งนำแสดงโดยฮัลลี เบลีย์ (Halle Bailey) ที่รับบทเงือกสาว แอเรียล ผู้ปรารถนาจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์ ทำรายได้ในสหรัฐ 95.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่นับจนถึงวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ขณะที่บ็อกซ์ออฟฟิศ โปร (Boxoffice Pro) คาดการณ์ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำรายได้มากกว่า 105 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 3 วัน และ 135 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 4 วัน
เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนักในกลุ่มนักวิจารณ์โดยรวม โดยในขณะนี้มีคะแนนจากนักวิจารณ์อยู่ที่ 67% บนเว็บไซต์รอตเทนโทเมโทส์ (RottenTomatoes.com) แต่มีเสียงตอบรับที่ดีกว่าในกลุ่มผู้ชมทั่วไป ขณะที่ภาพยนตร์เรื่อง เดอะ ซูเปอร์ มาริโอ บราเธอร์ส (The Super Mario Bros.) ของค่ายยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้ ก็ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ที่ต่ำเช่นกัน
ดิสนีย์ยังคงพยายามหาทางสร้างรายได้จากโรงภาพยนตร์เช่นเดียวกับสตูดิโอค่ายอื่น ๆ ในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ภาพยนตร์สำหรับครอบครัวบางเรื่องทำผลงานได้ไม่ดีนักในบ็อกซ์ออฟฟิศ รวมถึง ไลท์เยียร์ (Lightyear) และสเตรนจ์ เวิลด์ (Strange World) ที่เข้าฉายเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ดิสนีย์ยังมีภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็คือ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ (Avatar: The Way of Water) ซึ่งเข้าฉายเมื่อเดือนธ.ค. 2565
ทั้งนี้ ดิสนีย์ใช้งบประมาณในการสร้างภาพยนตร์ เดอะ ลิตเติ้ล เมอร์เมด ประมาณ 250 ล้านดอลลาร์