ดร. จิน เจียน ผู้อำนวยการสถาบันอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมและอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IIIIoT) ในสังกัดสถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของจีน (CAICT) กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่บรรลุเป้าหมายที่สำคัญนี้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ซิงหั่ว อินเตอร์เนชันแนล ซูเปอร์ โหนด มีความสำคัญยิ่งในการเชื่อมต่อสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนด้วยซิงหั่ว บีไอเอฟ ทั้งยังมีบริการอื่น ๆ อีกมากมายที่จะได้รับการเปิดตัวเพื่อรองรับการค้าทั่วโลก
ทางด้าน ทีเอส หว่อง กรรมการผู้จัดการกลุ่มของ MYEG กล่าวว่า ในโลกใบใหม่อันกล้าหาญแห่งการทำสัญญาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนโดย AI เครื่องมือระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ (decentralised identifiers หรือ "DID") เช่น บริการยืนยันตัวตนดิจิทัลของเรา จะถูกใช้งานอย่างแพร่หลายเพื่อระบุลักษณะของการโต้ตอบออนไลน์ เนื่องจากการแยกแยะการมีส่วนร่วมระหว่าง AI กับมนุษย์นั้นเริ่มยากขึ้นเรื่อย ๆ เรารู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้อยู่ในกลุ่มแรกที่ได้เปิดตัวเครื่องมือระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน W3C เพื่อรับประกันความเข้ากันได้และการทำงานร่วมกันกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 6 เดือนหลังจากที่ MYEG และโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านบล็อกเชนซิงหั่ว (Xinghuo Blockchain Infrastructure and Facility หรือ "Xinghuo BIF") ซึ่งเป็นบล็อกเชนแห่งชาติของจีน ได้ลงนามในข้อตกลงให้ MYEG เข้ามาควบคุมดูแลซิงหั่ว อินเตอร์เนชันแนล ซูเปอร์ โหนด นับเป็นอีกก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการนำบล็อกเชนของเซทริกซ์ไปใช้จริง
เวิลด์ไวด์เว็บคอนซอร์เทียม (World Wide Web Consortium หรือ "W3C") คือชุมชนนานาชาติที่พัฒนามาตรฐานแบบเปิดกว้าง เพื่อรับประกันการเติบโตในระยะยาวของเว็บ โดยบริการยืนยันตัวตนดิจิทัลซิงหั่วได้บุกเบิกบริการยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์ (decentralised identity service) ที่สอดคล้องกับมาตรฐานล่าสุดของ W3C ช่วยในการยืนยันตัวตนออนไลน์แบบเปลี่ยนแปลงไม่ได้ โดยในปัจจุบัน บริการดังกล่าวได้พิสูจน์แล้วว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งและขาดไม่ได้ในโลกที่จำเป็นต้องตรวจสอบบัญชีออนไลน์ว่าบัญชีดังกล่าวเป็นมนุษย์จริง ๆ หรือเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI)