สายการบินแอร์อินเดีย (Air India) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (6 มิ.ย.) ว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของแอร์อินเดียที่ออกเดินทางจากกรุงนิวเดลี มุ่งหน้าไปยังเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐนั้น ต้องเปลี่ยนเส้นทางและลงจอดที่สนามบินโซกอลในแคว้นมากาดันภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย หลังจากเครื่องยนต์เกิดการขัดข้องทางเทคนิค
การเปลี่ยนเส้นทางของเครื่องบินลำดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการถกเถียงกันทั่วโลกในกลุ่มสายการบินบางแห่งเกี่ยวกับการใช้น่านฟ้ารัสเซีย โดยเมื่อวันจันทร์ (5 มิ.ย.) ประธานสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) ได้กล่าวเตือนถึงอันตรายของการถูกบังคับให้เครื่องบินที่มีพลเมืองอเมริกันต้องลงจอดในรัสเซีย
สายการบินแอร์อินเดียกล่าวว่า ผู้โดยสาร 226 คน และลูกเรืออีก 16 คน ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน และได้เข้าพักในโรงแรมท้องถิ่นเมื่อคืนที่ผ่านมา และทางสายการบินมีแผนจะส่งเครื่องบินไปรับผู้โดยสารและลูกเรือในวันพุธ (7 มิ.ย.) และบินไปตามจุดหมายปลายทางเดิม โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่กำลังขยายความร่วมมือทั้งหมดในความพยายามเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้โดยสารจะถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย
นายเวดันท์ พาเทล รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะมีชาวอเมริกาอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว เมื่อพิจารณาจากจุดหมายปลายทางตามกำหนด แต่อย่างไรก็ตาม สายการบินแอร์อินเดียไม่ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับผู้โดยสาร
ด้านสำนักงานการเดินทางทางอากาศของรัสเซีย (Rosaviatsia) กล่าวว่า อยู่ในระหว่างตรวจสอบสภาพทางเทคนิคของเครื่องบิน หลังจากลงจอดที่สนามบินในแคว้นมากาดัน และอนุญาตให้เครื่องบินลำอื่นจากกรุงนิวเดลีมาลงจอดรับผู้โดยสารในเวลา 03.00 GMT หรือ 10.00 น.ตามเวลาไทยในวันพุธ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการตั้งคำถามว่า เครื่องบินโบอิ้ง 777 มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเครื่องยนต์สร้างโดยเจเนอรัล อิเล็กทริก (General Electric) นั้น จะได้รับการซ่อมได้รวดเร็วเพียงใด ท่ามกลางการคว่ำบาตรของสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) ที่ห้ามการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับเครื่องบินไปยังรัสเซีย