ภายในงานนี้จะมีการนำโปรแกรมท็อป100 กลับมาอีกครั้ง โดยออกแบบมาเพื่อเร่งการเติบโตของสตาร์ตอัปที่กำลังมาแรงในภูมิภาคนี้
โมฮาน เบลานี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง e27 กล่าวว่า อีโคซิสเต็มด้านเทคโนโลยีตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาได้เติบโตขึ้นจากการลงทุนอันมหาศาลและการมุ่งให้ได้เม็ดเงินมากขึ้นในการระดมทุนรอบต่อ ๆ ไป และเน้นให้มูลค่ากิจการสูงขึ้น แต่ให้ความสนใจกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนเพียงน้อยนิด ปีที่แล้วจึงนับเป็นโอกาสดีที่เหล่าผู้ก่อตั้งและนักลงทุนจะได้เริ่มต้นใหม่และปรับโฟกัสใหม่ และเป็นโอกาสดีสำหรับอีโคซิสเต็มที่จะได้เริ่มใหม่และวางแผนสำหรับวิวัฒนาการของอีโคซิสเต็ม งานเอเชลอนมีเป้าหมายเพื่อหารือว่า อีโคซิสเต็มจะสามารถโฟกัสอยู่กับปัญหาสำคัญและเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างไร
โดยภายในงานระยะเวลา 2 วันนี้คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 คนจากทั่วเอเชีย ซึ่งเป็นตัวแทนจากบริษัทกว่า 200 แห่ง และเหล่าวิทยากรระดับโลกมากกว่า 100 คน เอเชลอนคืองานเทคโนโลยีที่ช่วยให้บริษัทสตาร์ตอัปต่าง ๆ ได้คบค้าสมาคม ขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และสร้างดีลการลงทุนใหม่ ๆ ทั่วอีโคซิสเต็มด้านเทคโนโลยีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
งานเอเชลอนจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 5,000 คนจากสตาร์ตอัปรายใหญ่ เช่น มันนีสมาร์ต (MoneySmart), ดอกเตอร์ เอนีแวร์ (Doctor Anywhere), 500 โกลบอล (500 Global), เบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company), มองค์ส์ ฮิล เวนเจอร์ส (Monk's Hill Ventures)
ในปีนี้ ภายในงานจะมีการเสวนาเกี่ยวกับอนาคตของบริษัทเทคโนโลยีและอีโคซิสเต็มสตาร์ตอัปของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่าด้วยลักษณะความผันผวนของเทรนด์การลงทุนและการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และภาคธุรกิจที่มีการเติบโตในระดับสูง อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดระยะเวลา 2 วันของงาน วิทยากรผู้เชี่ยวชาญของเอเชลอนกว่า 100 ชีวิตจะนำเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับเว็บ3.0 (Web3.0), ซูนนิคอร์น (Soonicorns) และเหล่าผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ภาคส่วนต่าง ๆ ในอนาคตและเทรนด์การลงทุน, M&A, ความยั่งยืน ตลอดจนการเติบโตและการปรับขนาด นอกจากนี้ ในงานจะมีเวิร์กช็อป, การอภิปรายแบบโต๊ะกลม, นิทรรศการ และการทำความรู้จักคนใหม่ ๆ เอเชลอน เอเชีย ซัมมิต ประจำปี 2566 จึงถือเป็นโลกแห่งโอกาสของบรรดาสตาร์ตอัปจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเหล่านักลงทุน
นอกจากนี้ ในงานยังมีการนำโปรแกรมจัดอันดับ 100 บริษัท หรือที่เรียกว่า ท็อป100 (TOP100) ซึ่งเหล่าสตาร์ตอัปที่ดีที่สุดในภูมิภาคจะประชันผลงานของตัวเองเพื่อคว้าโอกาสในการเป็นผู้ชนะในโปรแกรม ทั้งนี้ ท็อป100 เป็นโปรแกรมที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีโดยได้รับการออกแบบมาเพื่อเฟ้นหา นำเสนอ และเร่งการพัฒนาของสตาร์ตอัปดาวรุ่งรุ่นต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้น บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายจากผู้สมัครกว่า 500 บริษัท และขณะนี้เป็นตัวแทนจากกว่า 10 ประเทศ จะมานำเสนอผลงานต่อหน้าตัวแทน 5,000 คน ซึ่งรวมถึงนักลงทุนชั้นนำ 25 ราย