ไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐเตือนว่า ยาที่ใช้รักษาโรคซิฟิลิสและการติดเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ สำหรับเด็กนั้น ๆ อาจหมดลงภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องจากต้องจัดลำดับความสำคัญให้กับรุ่นของยาที่ผลิตขึ้นสำหรับผู้ใหญ่ เนื่องจากการติดเชื้อซิฟิลิสพุ่งสูงขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไฟเซอร์ระบุในจดหมายลงวันที่ในวันจันทร์ (12 มิ.ย.) ถึงหน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพของสหรัฐว่า ยาบิซิลลิน แอล-เอ (Bicillin L-A) รุ่นสำหรับเด็กคาดว่าจะหมดลงภายในสิ้นไตรมาส 2/2566 นอกจากนี้ ไฟเซอร์ยังระบุในอีเมลอีกฉบับเมื่อวันอังคาร (13 มิ.ย.) ว่า สูตรยาปฏิชีวนะสำหรับเด็กนั้นไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ดี ไฟเซอร์ระบุว่า ยาปฏิชีวนะดังกล่าวสำหรับเด็กคาดว่าจะหมดลงในเร็ว ๆ นี้ และการขาดแคลนผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยผลิตภัณฑ์เพนิซิลลินของไฟเซอร์ขาดตลาดตั้งแต่เดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ไฟเซอร์กล่าวว่า บริษัทกำลังให้ความสำคัญก่อนกับปริมาณยาบิซิลลิน แอล-เอสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งขาดแคลนเช่นกัน แต่คาดว่าปริมาณยาดังกล่าวจะยังไม่หมดไป
ไฟเซอร์ระบุเสริมว่า ผลิตภัณฑ์เพนิซิลลินที่คล้ายกันอีกชนิดได้แก่ ยาบิซิลลิน ซี-อาร์ (Bicillin C-R) ซึ่งใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจส่วนบนนั้นคาดว่าจะหมดไปในไตรมาสที่ 3/2566
รายงานระบุว่า คำเตือนของไฟเซอร์มีขึ้นท่ามกลางการขาดแคลนยาปฏิชีวนะอะม็อกซีซิลลิน (amoxicillin) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนับตั้งแต่เดือนต.ค.
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด ซึ่งการติดเชื้อสามารถแพร่ไปยังทารกในระหว่างตั้งครรภ์นั้น ได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานผู้ป่วยมากกว่า 2,000 รายในปี 2564