สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียสั่งดำเนินคดีผู้ต้องหาสัญชาติไทย 4 รายวันนี้ (23 มิ.ย.) ในคดีลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมายจากเมียนมา ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคดีเมื่อปี 2558 ที่มีการค้นพบหลุมฝังศพหมู่และค่ายต้องสงสัยค้ามนุษย์บริเวณชายแดนมาเลเซีย-ไทย
หลุมฝังศพจำนวน 139 หลุมและอีกมากกว่า 20 ค่ายซึ่งต้องสงสัยว่าควบคุมดูแลโดยกลุ่มลักลอบขนคนถูกค้นพบเมื่อปี 2558 ในหมู่บ้านวังเกอเลียน (Wang Kelian) ของมาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนมาเลเซีย-ไทย
ป่าทึบทางตอนใต้ของประเทศไทยและทางตอนเหนือของมาเลเซียได้กลายเป็นจุดพักสำคัญสำหรับขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมายเข้ามายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านทางเรือ โดยเกือบทั้งหมดเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจาที่หลบหนีการปราบปรามจากเมียนมาและค่ายผู้ลี้ภัยที่ทรุดโทรมจากบังกลาเทศ
สำนักข่าวเบอร์นามารายงานว่า ชายไทย 4 คนถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์และต่อต้านการลักลอบขนคนเข้าเมืองปี 2550 จากการลักลอบพาชาวเมียนมา 2 คนเข้ามายังมาเลเซีย
หากพบว่ามีความผิด ชายทั้ง 4 คนจะต้องโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีและเสียค่าปรับ อย่างไรก็ตาม ศาลมาเลเซียไม่อนุญาตให้ประกันตัวและไม่มีบันทึกคำร้องจากผู้ต้องหาสัญชาติไทยแต่อย่างใด
ชายทั้ง 4 คนถูกส่งตัวข้ามแดนจากประเทศไทยในสัปดาห์นี้ โดยเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ทางการมาเลเซียระบุว่า พวกเขาเป็นหนึ่งใน 10 คนไทยที่ทางการได้ร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนตั้งแต่ปี 2560 ในฐานะส่วนหนึ่งของการสอบสวนเกี่ยวกับค่ายในเขตชายแดน
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นทางการของมาเลเซียที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2562 พบว่ามีจุดบกพร่องในการลาดตระเวนชายแดนของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ทางมาเลเซียได้ข้อสรุปว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้ใช้กฎหมาย ข้าราชการ หรือคนในพื้นที่ของมาเลเซียคนใดที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือการลักลอบขนผู้อพยพ