สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะกรรมการการสอบสวนของรัฐสภาออสเตรเลียกล่าวในวันพุธ (28 มิ.ย.) ว่า ออสเตรเลียควรยุติการโฆษณาการพนันออนไลน์ ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยคณะกรรมการต้องการจำกัด "ความเสียหาย" ที่เกิดขึ้นในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดการพนันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
คณะกรรมการการสอบสวนได้เสนอคำแนะนำ 31 ข้อ เกี่ยวกับการควบคุมการพนันออนไลน์ โดยได้ระบุว่าการพนันออนไลน์ได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมกีฬา และควรให้การสนับสนุนแก่ประชาชนที่กำลังต่อสู้กับการเสพติดการพนัน
นายพีตา เมอร์ฟีย์ ประธานคณะกรรมการการสอบสวน กล่าวในรายงานหัวข้อ "คุณอาจชนะบ้างเล็กน้อย แต่คุณเสียมากกว่า" ที่ระบุว่า ประชาชนชาวออสเตรเลียใช้จ่ายไปกับการพนันออนไลน์มากกว่าประชากรของประเทศอื่น ๆ โดยนายเมอร์ฟีย์เสริมว่า สิ่งนี้จะกำลังสร้างหายนะให้กับชุมชนต่าง ๆ ของเรา
นายเมอร์ฟีย์ระบุว่า บรรดาบริษัทพนันออนไลน์ต่างโฆษณาอย่างจงใจ และวางกลยุทธ์ควบคู่ไปกับกีฬา ซึ่งทำให้กลายเป็นกิจกรรมทางสังคมที่ดูปกติ สนุกสนาน และไม่เป็นอันตราย โดยกลุ่มคนหนุ่มสาวชาวออสเตรเลียมองว่าการพนันและกีฬาเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก พร้อมเสริมว่าการพนันกำลังทำให้วัฒนธรรมของกีฬาเปลี่ยนแปลงไป
"ออสเตรเลียจะสูญเสียคุณค่าไป หากกีฬากลายเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจเพียงเพราะเงินที่ได้จากการพนัน และจุดประสงค์หลักของกิจกรรมการกีฬาต่าง ๆ จะเปลี่ยนไป กลายไปเป็นแค่โอกาสให้คนได้ใช้ในการพนัน" นายเมอร์ฟีย์ กล่าว
รายงานระบุว่า การแบนการพนันออนไลน์จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อบรรดาบริษัทพนันออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ฟลัตเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Flutter Entertainment) ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นลอนดอน ผู้เป็นเจ้าของแอปฯ พนันยอดนิยมสูงสุดในออสเตรเลียอย่าง สปอร์ตเบ็ตส์ (Sportbets) รวมถึงเอ็นเทน (Entain) เจ้าของแอปฯ แลดโบรกส์ (Ladbrokes) ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับสาม และแท็บคอร์ป โฮลดิงส์ (Tabcorp Holdings)
ทั้งนี้ ออสเตรเลียนับเป็นประเทศการพนันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแง่ของเม็ดเงินที่สูญเสียต่อคน อุตสาหกรรมการพนันได้กลายเป็นที่สนใจอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนที่มีต่อบรรดาผู้ประกอบกิจการกาสิโนรายใหญ่ เกี่ยวกับการป้องกันการฟอกเงิน