หัวเว่ย (Huawei) ได้เข้าร่วมงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (MWC) เซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2566 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน ภายใต้ธีม "แนวทางสู่โลกอัจฉริยะ" โดยกิจกรรมในปีนี้ประกอบด้วยการพาชมเมืองต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและธุรกิจของบริษัท ตลอดจนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชัน "5กิกะกรีน" (5GigaGreen) เครือข่ายหลักอัจฉริยะ 5G, เครือข่ายอัจฉริยะอ็อปติกส์ (OptiX Networks) และโซลูชันอัจฉริยะอื่น ๆ เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
โดยหัวเว่ยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโต๊ะกลมและการเสวนาร่วมกับผู้ให้บริการระดับโลก พันธมิตรในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด เพื่อสำรวจหัวข้อที่หลากหลาย ครอบคลุมการเร่งการเติบโตของเทคโนโลยี 5G ผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอัจฉริยะ และก้าวสู่ยุค 5.5G
ซาบรินา เมิ่ง ประธานหมุนเวียนและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "การเปิดรับการเปลี่ยนแปลง 5G" โดยกล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของโลกอัจฉริยะแห่งอนาคตจะถูกรวมเข้ากับทุกแง่มุมของชีวิตอย่างลึกซึ้ง และจะไม่ขึ้นตรงต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง แต่จะอาศัยระบบที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อน ดังนั้นความสามารถในการรวมเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและการจัดการการเปลี่ยนแปลงจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของ 5G
นอกจากนี้ การจัดการการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอัจฉริยะไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่จำเป็นต้องกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน เหตุการณ์ สิ่งของ และทฤษฎี รวมถึงมีการปรับใช้แนวทางการจัดการที่เปิดกว้างและรองรับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 5G มากกว่า 1.2 พันล้านรายทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ให้บริการที่พัฒนาเทคโนโลยี 5G อย่างรวดเร็วในช่วงแรกสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไปได้
สำหรับบริการ 5G เชิงพาณิชย์ที่เข้าสู่ตลาดเมื่อ 4 ปีที่แล้วได้ถูกนำไปใช้กับโครงการเครือข่ายส่วนบุคคลมากกว่า 17,000 โครงการทั่วโลก รายได้ทั้งจากเครือข่ายส่วนบุคคล 5G และจำนวนการเชื่อมต่อทางอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า นอกจากนี้ ผู้ให้บริการหลายรายได้ใช้ประโยชน์จากรายได้จำนวน 1 หมื่นล้านหยวนที่ได้จากเครือข่ายส่วนบุคคลแบบ 5GtoB ในการผลักดันรายได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจนแตะที่ระดับ 1 แสนล้านหยวน จากการให้บริการคลาวด์ การจัดเก็บข้อมูล และบริการแพลตฟอร์ม แม้ว่าบริการ 5GtoB จำนวนมากจะมีการนำร่องในประเทศจีน แต่ก็ได้ขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก และถูกนำไปใช้เชิงพาณิชย์ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
อย่างไรก็ตาม นวัตกรรม 5.5G เป็นสิ่งที่กำลังพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการสื่อสาร เทคโนโลยี 5.5G มีแนวโน้มที่จะยกระดับความสามารถเครือข่ายได้ถึง 10 เท่า และสร้างโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้นกว่า 100 เท่าสำหรับผู้ให้บริการ โดยภายในงานทางหัวเว่ยได้จัดแสดง 4 ฟีเจอร์หลักของเทคโนโลยี 5.5G ประกอบด้วย ดาวน์ลิงก์ 10 กิกะบิต/วินาที, อัปลิงก์ 1 กิกะบิต/วินาที, การเชื่อมต่อ 1 แสนล้านครั้ง และเอไอแบบเนทีฟ นอกจากนี้ ยังจะสำรวจการเชื่อมต่อ 5 ประการที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างมากในอนาคตด้วยเทคโนโลยี 5.5G ได้แก่ การเชื่อมต่อสำหรับผู้คน สิ่งของ ยานพาหนะ อุตสาหกรรม และครัวเรือน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรม 5.5G จะยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคาดการณ์ว่ามาตรฐาน 5.5G ชุดแรกจะได้รับการรับรองในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ขณะที่เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้รับการตรวจสอบแล้วเป็นจำนวนมาก