มูลนิธิ Open Society Foundations (OSF) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรของนายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีชาวอเมริกันเชื้อสายฮังการี วางแผนที่จะปรับลดพนักงานอย่างน้อย 40% ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
มูลนิธิ OSF ได้ยืนยันเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ว่า นายโซรอส วัย 92 ปีได้ส่งมอบอำนาจในการควบคุมมูลนิธิให้กับนายอเล็กซ์ซึ่งเป็นบุตรชายของเขา
ด้านโฆษกของมูลนิธิ OSF เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (30 มิ.ย.) ว่า คณะกรรมการของมูลนิธิได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกับรูปแบบการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมถึงการปรับลดพนักงานทั่วโลกจำนวนไม่น้อยกว่า 40%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายโซรอสได้บริจาคเงินมากกว่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับมูลนิธิ OSF ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 500 คน ณ สิ้นปี 2564 และได้มอบเงินช่วยเหลือโครงการด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนประชาธิปไตย ตั้งแต่การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทางอาญาไปจนถึงการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ
ปัจจุบัน OSF ควบคุมสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่บริหารโดยสำนักงานครอบครัวของเขาซึ่งมีมูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แถลงการณ์ที่ลงนามโดยนายอเล็กซ์ บุตรชายของนายโซรอสและนายมาร์ค มัลลอช-บราวน์ ประธานมูลนิธิ OSF ระบุว่า "คณะกรรมการของมูลนิธิมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานในเครือข่ายทั่วโลก เพื่อสร้างองค์กรที่มีความคล่องตัวมากขึ้น และในขณะที่ OSF ดำเนินการเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภายในนั้น คณะกรรมการของ OSF ก็ยังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการให้ความสำคัญกับงานในด้านต่าง ๆ ของมูลนิธิ ซึ่งได้แก่ด้านประชาธิปไตย, สิทธิมนุษยชน, ความยุติธรรม, สภาพอากาศ และความเท่าเทียม"