Carl Pei ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Nothing กล่าวว่า เรานำเสนอฟีเจอร์ชั้นยอดในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างตั้งใจมากขึ้น ผ่านนวัตกรรมการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือสำคัญในชีวิตของเรา แต่มันกลายเป็นสิ่งรบกวนสมาธิมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เราอยู่กับปัจจุบันน้อยลงและมีความคิดสร้างสรรค์น้อยลง
Nothing ออกแบบ Phone (2) ออกแบบอย่างสอดคล้องและสมมาตร และคำนึงถึงรูปทรง สี ตำแหน่ง และพื้นผิวของแต่ละส่วนประกอบอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การใช้งานจริงตามหลักสรีรศาสตร์ด้วยเฟรมกลางที่บางลง 1 มม. และกระจกด้านหลังที่นูนขึ้น
ทั้งนี้ หลักสำคัญของการออกแบบสมาร์ทโฟน Nothing คือ Glyph Interface ซึ่งออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยลดการโต้ตอบบนหน้าจอให้น้อยลง ผู้ใช้สามารถกำหนดลำดับแสงและเสียงส่วนบุคคลให้กับผู้ติดต่อแต่ละคนและแต่ละแอปได้ เพื่อรับรู้การแจ้งเตือนที่สำคัญ
Nothing ปรับปรุง Glyph Interface อันเป็นเอกลักษณ์บน Phone (2) ด้วยการเพิ่มจำนวนส่วน LED เพื่อให้สามารถปรับแต่งและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ตรวจสอบระดับเสียง และจับเวลา ขณะที่การแจ้งเตือน Essential Glyph ช่วยให้ผู้ใช้ไม่พลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา เมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากผู้ติดต่อหรือแอปที่เลือกไว้ ไฟ LED ในส่วนด้านขวาบนจะสว่างอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับการรับรู้
Nothing OS ลดสิ่งรบกวนและส่งเสริมการใช้สมาร์ทโฟน พร้อมมอบประสบการณ์ที่รวดเร็วและราบรื่นให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งมีรากฐานมาจากยูทิลิตี้ ในขณะที่ยังคงความสวยงามด้านการออกแบบของ Nothing ไว้ด้วยกัน Phone (2) มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีเทาเข้ม โดยมีสองรุ่นให้เลือก: 12GB/256GB (24,990THB) และ 12GB/512GB (27,990THB)
ผู้ใช้งานในไทยจะมีโอกาสเป็นลูกค้ากลุ่มแรกในโลกที่จะได้ซื้อ Phone (2) รวมทั้งได้รับสิทธิพิเศษและข้อเสนอพิเศษก่อนใครที่ Carnival Siam Square เวลา 11:00 น. ในวันเสาร์ที่ 15 ก.ค.นี้