รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับสูงเกี่ยวกับมรสุมฤดูร้อนที่รุนแรง หลังเกิดฝนตกหนักทั่วประเทศในวันนี้ (14 ก.ค.) ส่งผลให้ไฟฟ้าดับและประชาชนกว่าหนึ่งร้อยคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
กระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้ระบุว่า ประชาชนกว่า 4,000 ครัวเรือนประสบปัญหาไฟฟ้าดับในกรุงโซล เนื่องจากฝนตกหนักที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) โดยมีประชาชน 135 คนทั่วประเทศต้องอพยพ ณ เวลา 06:00 น.
นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซู แห่งเกาหลีใต้ กล่าวว่า "การดูแลให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด" และสั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ โดยมีตำรวจมากกว่า 10,500 นายปฏิบัติหน้าที่จราจรและเพิ่มการลาดตระเวน
เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว กรุงโซลเผชิญน้ำท่วมเนื่องจากมีฝนตกหนักที่สุดในรอบ 115 ปี ทำให้น้ำท่วมแฟลตกึ่งใต้ดินในย่านที่มีพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงในเขตกังนัมที่มั่งคั่ง
นายยกฯฮันระบุว่า ทางเกาหลีเหนือเผชิญฝนตกหนักเช่นกัน โดยอาจเปิดประตูระบายน้ำจากเขื่อนในแม่น้ำที่ไหลผ่านพรมแดนระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
นอกจากนี้นายกฯฮันยังกล่าวโดยอ้างถึงพื้นภาคกลางของเกาหลีเหนือว่า "คาดว่าจะมีฝนตกหนักในจังหวัดฮวางแฮ และเราจำเป็นต้องเตรียมการอย่างละเอียดถี่ถ้วนสำหรับความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนืออาจปล่อยน้ำจากเขื่อนฮวางกัง"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เกาหลีเหนือมักปล่อยน้ำโดยไม่แจ้งให้เกาหลีใต้ทราบล่วงหน้า ทำให้กระแสน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน จนเกิดน้ำท่วมและมีผู้เสียชีวิตในเกาหลีใต้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กระทรวงการรวมชาติระบุวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า ทางกระทรวงฯได้ส่งข้อความไปถึงเกาหลีเหนืออีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อขอให้มีการแจ้งล่วงหน้าในกรณีที่มีการปล่อยน้ำ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง