นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า การที่รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งกองทุนวงเงิน 80,000 ล้านเยนเพื่อชดเชยแก่อุตสาหกรรมประมงในบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ถือเป็นการใช้เงินปิดปากชาวญี่ปุ่น โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งประเทศและหมู่เกาะในแปซิฟิกที่อยู่ใกล้กับญี่ปุ่น
"ถ้าน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่ถูกปล่อยจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่มีอันตรายจริง ทำไมมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมประมงในฟูกูชิมะจะได้รับผลกระทบ ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการรู้สึกสำนึกผิด ทำไมรัฐบาลญี่ปุ่นต้องพยายามปิดปากประชาชนด้วยการให้เงินชดเชย"
"คำตอบที่สมเหตุสมผลก็คือ มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับน้ำที่ถูกปล่อยออกมา" นายหวังกล่าว
รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่เคยประกาศชัดเจนว่าจะมีการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่ทะเลเมื่อใด แต่มีการคาดการณ์กันว่า รัฐบาลจะดำเนินการในไม่ช้า
ทางการญี่ปุ่นอ้างว่า การทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเพียงเล็กน้อย และบริษัทโตเกียว อิเลกทริก พาวเวอร์ (TEPCO) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จำเป็นต้องทิ้งน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลงสู่ทะเล เนื่องจากทางบริษัทขาดแคลนสถานที่ในการกักเก็บน้ำที่ผ่านการบำบัดดังกล่าว
ทั้งนี้ TEPCO ได้กักเก็บน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีมากกว่า 1 ล้านตันจากท่อหล่อเย็นในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ นับตั้งแต่ที่ประสบความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิในปี 2554