สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สวอท์ช กรุ๊ป (Swatch Group) ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลมาเลเซีย ในข้อหายึดนาฬิการุ่นสีรุ้งที่เฉลิมฉลองสิทธิของกลุ่ม LGBTQ โดยชี้ว่าเป็นการกระทำที่ทำลายชื่อเสียงของแบรนด์
รายงานระบุว่า มาเลเซียซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม มองว่าการรักร่วมเพศเป็นอาชญากรรม ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนต่างออกมาเตือนว่า การไม่ยอมรับในกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ ในมาเลเซียนั้นกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้านกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย กล่าวว่า เมื่อเดือนพ.ค. ทางการได้ยึดนาฬิกาคอลเลกชันไพรด์ (Pride) ของสวอท์ช เนื่องจากมีตัวอักษร LGBTQ อยู่บนนาฬิกา
ในเอกสารที่สวอท์ชยื่นต่อศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยได้ยึดนาฬิกาจำนวน 172 เรือน จากร้านค้า 16 สาขา "อย่างผิดกฎหมาย" โดยเรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าว หลังจากที่เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์มาเลย์เมลนำมารายงานเป็นครั้งแรกในวันนี้ (17 ก.ค.)
สวอท์ชกล่าวว่า หนังสือแจ้งเตือนการยึดที่ส่งมายังบริษัท ชี้แจงว่านาฬิการุ่นดังกล่าวมีองค์ประกอบหรือส่งเสริมสิทธิของกลุ่ม LGBTQ และอาจละเมิดกฎหมายของมาเลเซีย
นอกจากนี้ สวอท์ชกล่าวอีกว่า นาฬิกาส่วนใหญ่ที่ถูกยึด มีมูลค่าขายปลีกรวม 64,795 ริงกิต (14,250.05 ดอลลาร์สหรัฐ) และไม่มีตัวอักษร "LGBTQ" แต่อย่างใด
ศาลสูงกรุงกัวลาลัมเปอร์มีกำหนดไต่สวนคดีการฟ้องร้องดังกล่าวในวันที่ 20 ก.ค. นี้
ทั้งนี้ มาเลเซียเคยลงโทษจำคุกหรือเฆี่ยนบุคคลที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศมาแล้ว โดยเมื่อปี 2565 มีการจับกุมชาวมาเลเซีย 18 ราย ที่ปาร์ตี้งานฮาโลวีน ซึ่งมีสมาชิกกลุ่ม LGBTQ เข้าร่วม