ชาวสหรัฐกว่า 80 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศกำลังเผชิญกับภัยร้อน เนื่องจากคลื่นความร้อนยังคงแผ่ปกคลุมทั่วประเทศ
สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NWS) ระบุว่า อุณหภูมิระดับตัวเลข 3 หลัก คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประชากรผู้อยู่อาศัยในภาคตะวันตกและภาคใต้ของประเทศ โดยมีหลายเมืองคาดว่าจะทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
มีการประกาศคำแนะนำเกี่ยวกับการรับมือความร้อน คำเตือนเกี่ยวกับอุณหภูมิที่สูงเกินไป และการเฝ้าระวังความร้อนที่มากเกินไปตามรัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย เนวาดา แอริโซนา นิวเม็กซิโก ลุยเซียนา เท็กซัส อาร์คันซอ มิสซิสซิปปี อลาบามา โอกลาโฮมา และฟลอริดา
NWS ระบุว่า อุณหภูมิในพื้นที่แห้งแล้งบางพื้นที่พุ่งสูงกว่า 120 องศาฟาเรนไฮต์ตอนกลางวัน และยังคงอยู่ที่ราว 90 องศาฟาเรนไฮต์ตอนกลางคืน โดยอุณหภูมิของหุบเขามรณะ (Death Valley) ของรัฐแคลิฟอร์เนียพุ่งสูงถึง 128 องศาฟาเรนไฮต์ (53.33 องศาเซลเซียส) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (16 ก.ค.)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คลื่นความร้อนเป็นส่วนหนึ่งของสภาพอากาศที่รุนแรงที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ขณะที่พายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก พายุโซนร้อน และควันไฟป่าก็ยังส่งผลกระทบต่อบางพื้นที่ของประเทศด้วย