แฮร์รอดส์ (Harrods) ห้างสรรพสินค้าหรูหราชื่อดังจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะเปิดคลับหรูส่วนตัวสำหรับสมาชิกในนครเซี่ยงไฮ้ของจีน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แฮร์รอดส์เปิดคลับนอกสหราชอาณาจักร โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในกลุ่มเศรษฐีชาวจีน
คลับใหม่ดังกล่าวของแฮร์รอดส์ มีชื่อว่า เดอะ เรสซิเดนซ์ (The Residence) จะเปิดให้บริการในช่วงสิ้นปีนี้ โดยคลับจะตั้งอยู่บนชั้นสองของ ชาเฮาส์ (Cha House) ตึกเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงในนครเซี่ยงไฮ้ ที่ซึ่งแฮร์รอดส์ได้เปิดห้องชา (tea room) และบาร์ไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปอยู่แล้ว นอกจากนี้ ร้านอาหารของเชฟชื่อดังอย่าง กอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay) สาขาแรกในเซี่ยงไฮ้จะเปิดให้บริการในคลับแห่งนี้ด้วย
สำหรับผู้ที่จะเข้าเป็นสมาชิกของคลับจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี เริ่มต้นที่ 150,000 หยวน (21,000 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยจะเปิดรับสมาชิกในช่วงเริ่มแรกที่ 250 คน
สมาชิกคลับเรสซิเดนซ์จะได้รับโอกาสในการสะสมขวดเหล้าหายาก ผ่านการเป็นหุ้นส่วนระหว่างแฮร์รอดส์กับอีดริงตัน กรุ๊ป (Edrington Group) บริษัทวิสกี้หรูหราของสกอตแลนด์ สมาชิกคลับยังสามารถใช้บริการการดูแลอำนวยความสะดวก หรือ concierge services ของแฮร์รอดส์ได้ทั่วโลกอีกด้วย
นายไมเคิล วอร์ด กรรมการผู้จัดการของแฮร์รอดส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ลูกค้าชาวจีนคิดเป็นสัดส่วน 16% ของยอดขายของแฮร์รอดส์ในปีที่แล้ว
นักชอปสินค้าหรูราชาวจีนที่ส่วนใหญ่ใช้จ่ายในต่างประเทศในช่วงก่อนการระแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้หันเหความสนใจมาที่การใช้จ่ายภายในประเทศแทน เนื่องจากสินค้าหรูหรามีวางขายหลากหลายมากขึ้นในจีน และราคาสินค้าหรูที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการเดินทางไปชอปปิงในต่างประเทศลดลง
"เรามั่นใจว่ากระแสการชอปปิงจะกลับไปที่จีน เราต้องการสร้างพื้นฐานเพื่อให้เราสามารถรักษาความสัมพันธ์นั้นเอาไว้ เนื่องจากเรามีลูกค้าที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งในจีน" นายวอร์ด กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ข้อมูลจากไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส (PwC) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวจีนอยู่ในกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของตลาดสินค้าหรูทั่วโลกซึ่งมีมูลค่า 3.245 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเนื่องด้วยชาวจีนซื้อสินค้าในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มมากขึ้น แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ระดับโลกจึงกำลังขยายฐานไปยังตลาดในประเทศจีน
แอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง (LVMH) บริษัทเจ้าของแบรนด์สินค้าหรูรายใหญ่ของโลก กำลังโยกย้ายธุรกิจออกจากฮ่องกงเพื่อมุ่งเน้นไปยังตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่แอร์เมส (Hermes) กำลังเปิดร้านสาขาใหม่ ๆ ในจีน หรือปรับปรุงหน้าร้านเดิมให้ดีขึ้น